หมู่บ้านบริบาลการสัตวแพทย์ทางไกล เพื่อการดูแลสุขภาพฝูงโคนม (Veterinary telemedicine service villages for dairy herd heatth care)
กลุ่มเกษตรกผู้เลี้ยงโคนมพื้นที่คำบลโนนราษี ต.ดอนงัว และต.กำพี้ อ.บรบือ จ.มหาสารคาม
ผล : จำนวนคนที่ได้รับการถ่ายทอดความรู้/เทคโนโลยี เป็นเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมในอำเภอบรบือ จังหวัดมหาสารคาม ซึ่งเป็นสมาชิกของสหกรณ์ผู้เลี้ยงโคนมโคกก่อ จำกัด สหกรณ์โคนมมหาสารคาม จำกัด และสามารถนำไปใช้ประโยชน์ (ได้ผลผลิตที่เพ่มขึ้นและมีการจัดการฟาร์มดีขึ้น) จำนวน 139 ราย มีวิทยากรที่สามารถถ่ายทอดความรู้ให้ผู้อื่นได้ ได้แก่ เจ้าหน้าที่ส่งเสริมของสหกรณ์ผู้เลี้ยงโคนมโคกก่อ จำกัด 3 คน นิสิตฝึกงานของคณะสัตวแพทยศาสตร์ 1 คน และนายสัตวแพทย์ของทีมบริการสุขภาพสัตว์ จำนวน 1 คน มีผลความพึงพอใจในการบริการร้อยละ 90 คิดเป็นสัดส่วนมูลค่าทางธุรกิจที่เกิดขึ้น (BCR) 3.817
ผล : เกษตรกรมีข้อมูลเชิงสถิติของคุณภาพน้ำนมดิบและราคาน้ำนมดิบ จะทำให้เกษตรกรได้พัฒนาศัยกภาพการผลิตน้ำนมดิบให้สูงขึ้น น้ำนมดิบมีคุณภาพที่ดีขึ้นเพื่อให้มีรายได้เพิ่มขึ้น ในขณะเดียวกันเกษตรกรมีข้อมูลประสิทธิภาพของตัวโคในแอปพลิเคชัน และการแนะนำของทีมสุขภาพสัตว์ทำให้เกษตรกรสามารถพัฒนาวิธีการจัดการฟาร์มให้ได้ปริมาณน้ำนมเพิ่มขึ้น
ผล : อาชีพการเลี้ยงโคนมมีความยั่งยืน รายได้ที่เพิ่มขึ้นและรายจ่ายที่ลดลงทำให้เกษตรกรมีกำลังใจในการพัฒนาฟาร์มและสานต่ออาชีพนี้ต่อไปโดยปรับเปลี่ยนวิธีการบริหารจัดการฟาร์ม ให้ความสำคัญกับสารสนเทศในฟาร์ม วิเคราะห์ฟาร์มได้ด้วยตนเองและเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง แพลตฟอร์มการบริการสุขภาพสัตว์มีความชัดเจนและเป็นธุรกิจการบริการที่เป็นประโยชน์ต่อเกษตรกร
รายงานความก้าวหน้า
ไตรมาส | ผลการดำเนินงาน | งบประมาณที่ใช้ | ผู้รับบริการ |
---|---|---|---|
3 [5534] |
โครงการหมู่บ้านบริบาลการสัตวแพทย์ทางไกล เพื่อการดูแลสุขภาพฝูงโคนม (Veterinary telemedicine service villages for dairy herd health care)ในปีที่ 2 ได้ขยายเป้าหมายจากกลุ่มเกษตรกรในพื้นที่ตำบลโนนราษี ตำบลดอนงัว และตำบลกำพี้ อำเภอบรบือ จังหวัดมหาสารคาม เป็นพื้นที่ข้างเคียง ซึ่งมีการเลี้ยงโคนมเป็นจำนวนมาก และยังมีการเลี้ยงโคเนื้อ กระบือ และแพะ อีกจำนวนมาก แต่สัตวแพทย์ในพื้นที่กลับมีจำนวนไม่เพียงพอ เกษตรกรจึงไม่สามารถเข้าถึงบริการของสัตวแพทย์ได้ แม้ว่าจะมีนายสัตวแพทย์ในพื้นที่บ้าง แต่ขาดช่องทางการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ และกลายเป็นประเด็นปัญหาที่สำคัญ ปัญหาสุขภาพสัตว์จึงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในปีงบประมาณ 2568 ได้จัดกิจกรรมติดตามเก็บข้อมูลปริมาณน้ำนมและคุณภาพน้ำนมในแอปพลิเคชันเซียนแดรี่ แก้ไขปัญหาระบบสืบพันธุ์ของโค เพื่อตรวจระบบสืบพันธุ์โคที่อยู่ในช่วงพักการรีดนมและไม่ตั้งท้อง โดยการตรวจล้วงตรวจระบบสืบพันธุ์และอัลตราซาวด์ระบบสืบพันธุ์ ติดตามโคที่ไม่แสดงอาการเป็นสัดหลังคลอดเกินกว่าเกณฑ์ 90 วัน โดยการตรวจอัลตราซาวด์ระบบสืบพันธุ์จากทีมสัตวแพทย์ (HHU) อย่างต่อเนื่องและพิจารณาใช้ฮอร์โมนเหนี่ยวนำการเป็นสัด คัดทิ้งโคที่ไม่มีประสิทธิภาพและนำเข้าโคสาวตั้งท้อง เพื่อทดแทนในฝูงแม่โค จัดระบบบัญชีฟาร์ม วิเคราะห์กระแสเงินสด โดยสามารถแจ้งเตือนสภาพคล่องทางการเงินผ่านแอปพลิเคชัน เพื่อให้เกษตรกรรักษาวินัยทางการเงิน และแนะนำเกษตรกรในการจดบันทึกบัญชีฟาร์มด้วยสมุดบัญชีหรือใช้แอปพลิเคชันช่วยบันทึกข้อมูล ให้ความรู้ในการคำนวณต้นทุนทางเศรษฐศาสตร์ ต้นทุนคงที่ ต้นทุนผันแปร ค่าเสื่อมของสินทรัพย์และค่าเสียโอกาสในการลงทุน จัดอบรมให้ความรู้และวิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงของต้นทุนการผลิตน้ำนมดิบ แนวคิดการพัฒนาหน่วยสัตวแพทย์ดูแลสุขภาพฝูงสัตว์ (Herd Health Unit, HHU) ในพื้นที่ เป็นแนวคิดริเริ่มเพื่อมุ่งเป้าแก้ไขปัญหาระบบสืบพันธุ์ของโคซึ่งเป็นปัญหาหลัก แก้ไขปัญหาโคในช่วงพักการรีดนมที่ไม่ตั้งท้องจำนวนมาก ปัญหาระยะท้องว่าง (Day open) นาน รวมทั้งปัญหาสุขภาพ สูญเสียระดับแคลเซียมจากร่างกาย เกิดอาการไข้นม บางตัวมีปัญหาได้รับพลังงานจากอาหารไม่เพียงพอ เกิดภาวะไม่สมดุลของพลังงานหรือเป็นโรคคีโตซิส (Ketosis)ซึ่งถือเป็นการสูญเสียอย่างมากของฟาร์ม ทั้งยังส่งผลต่อปริมาณผลผลิตน้ำนมและคุณภาพน้ำนม ผลิตน้ำนมลดลงรวดเร็วกว่าเกณฑ์ ปริมาณน้ำนม (milk yield) ต่อรอบการผลิตมีค่าต่ำกว่าเกณฑ์ เกษตรกรสูญเสียโอกาสในการสร้างรายได้จากกิจการฟาร์มโคนม กิจกรรมของโครงการฯ ในปีที่ 2ได้รับความร่วมมือจากสหกรณ์ผู้เลี้ยงโคนมโคกก่อ จำกัด สหกรณ์โคนมมหาสารคาม จำกัด และเกษตรกรสมาชิกทั้งสองสหกรณ์ โดยมุ่งหวังให้กิจกรรมดำเนินไปอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ฝูงโคนมมีสุขภาพที่ดี ปริมาณน้ำนมเพิ่มขึ้นและคุณภาพน้ำนมดีขึ้น และมุ่งเป้าสู่การลดความเสี่ยงด้านสุขภาพของโคในฝูงโคทดแทน ฝูงโคพักรีดนม ฝูงโคหลังคลอดและรีดนม เพื่อวางแผนการตรวจสุขภาพสัตว์และการป้องกันโรคสัตว์ประจำปีให้แก่ฟาร์มในพื้นที่ต่อไป รายงานโดย ผศ.น.สพ.ดร.มนกานต์ อินทรกำแหง วันที่รายงาน 05/07/2568 [5534] |
140000 | 90 |
4 [5739] |
ผลการดำเนินการในไตรมาสที่ 4 ได้ดำเนินการทางธุรกิจการให้บริการทางสัตวแพทย์ในพื้นที่อำเภอบรบือ ตามแผนธุรกิจดังนี้ แผนธุรกิจของหน่วยสัตวแพทย์ดูแลสุขภาพฝูงสัตว์ (Herd Health Unit, HHU) หน่วยสัตวแพทย์ดูแลสุขภาพฝูงสัตว์ (Herd Health Unit, HHU)เป็นหน่วยธุรกิจในชุมชนอำเภอบรบือ จังหวัดมหาสารคาม เพื่อส่งเสริมสุขภาพสัตว์และเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตของฟาร์ม ทำให้เกษตรสามารถเข้าถึงบริการทางสัตวแพทย์ บริการตรวจและรักษาโคนมและสัตว์ชนิดต่าง ๆ ในพื้นที่ ทำให้สัตว์มีสุขภาพดีขึ้น ผลผลิต น้ำนมปริมาณมากและมีคุณภาพสูง เกษตรกรมีรายได้เพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะทำให้กลุ่มเกษตรกรเข้มแข็งมากขึ้น มีรายได้สูงกว่ารายจ่าย สร้างความยั่งยืนแก่ชุมชน สัตวแพทย์มีบทบาทสำคัญต่อการดูแลสุขภาพฝูงสัตว์ การบริการทางสัตวแพทย์จะต้องทั่วถึงโดยเกษตรกรจะต้องสะดวกในการขอรับบริการ ซึ่งการใช้เทคโนโลยีแอปพลิเคชันเป็นช่องทางหนึ่งในการสื่อสารและจัดเก็บข้อมูลสารสนเทศ เกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมสามารถแจ้งสัตว์ป่วยผ่านแอปพลิเคชัน ซึ่งจะทำให้ข้อมูลประวัติโคถูกส่งต่อให้สัตวแพทย์ที่ดูแลประจำฟาร์มได้ทันที โดยสัตวแพทย์สามารถตัดสินใจเลือกให้คำแนะนำแก่เกษตรกรโดยไม่ต้องเดินทางไปรักษาในกรณีที่ไม่เร่งด่วน หรือเลือกเดินทางไปรักษาที่ฟาร์มด้วยตัวเองหรือส่งบุคลากรไปให้บริการทางสัตวแพทย์ที่ฟาร์ม จากนั้นบันทึกข้อมูลการรักษาและการใช้ยาผ่านแอปพลิเคชัน ซึ่งประวัติการรักษาและการใช้ยาทั้งหมดจะถูกบันทึกไว้ในแอปพลิเคชันของเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนม สามารถค้นหาประวัติการป่วยได้ แบบจำลองธุรกิจ (Business Model Canvas)มีดังนี้ 1) Customer segment:ผู้ใช้บริการได้แก่ เกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมและสัตว์ชนิดต่าง ๆ ในพื้นที่ โดยมีโคนม โคเนื้อ กระบือ และแพะ เป็นสัตว์ชนิดหลักที่ต้องการรับการบริการทางสัตวแพทย์ 2) Value Proposition:การบริการทางสัตวแพทย์ของนายสัตวแพทย์และทีม HHU จะสร้างคุณค่าและประโยชน์อย่างยิ่งต่อเกษตรกรโดยการให้คำปรึกษา บริการการรักษาและแนะนำการใช้ยาอย่างมีเหตุผล มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล โดยทีม HHUจะช่วยนำข้อมูลจากการบันทึกในแอปพลิเคชันมาวิเคราะห์และสะท้อนสิ่งที่เกษตรกรต้องพัฒนาอย่างเร่งด่วน วิเคราะห์ข้อมูลตัวสัตว์ทั้งระดับฝูงและรายตัว ทำให้เพิ่มผลผลิต ส่งเสริมให้สัตว์มีสุขภาพดีเพิ่มขึ้น ทำให้สามารถคัดทิ้งโคที่ไม่มีประสิทธิภาพ ลดความเสียหายจากการผลิตสัตว์ 3) Channels:การสื่อสารแนวทางการใช้เทคโนโลยีนี้เป็นหลักสำคัญของโครงการ เพราะผู้ที่ปฏิบัติงานในทีม HHU ทั้งหมดจะต้องมีความเข้าใจและยอมรับไปใช้ปฏิบัติจริงอย่างต่อเนื่อง โดยผู้ปฏิบัติงานในทีม HHU จะต้องทำงานร่วมกันแบบสหวิชาชีพโดยใช้ช่องทางการสื่อสารและจัดเก็บข้อมูลสารสนเทศผ่านแอปพลิเคชัน 4) Customer relationships:ความต่อเนื่องของการใช้งานจะต้องเริ่มจากเกษตรกรผู้ใช้งานให้การยอมรับและปฏิบัติทุกครั้งที่ต้องการคำแนะนำของสัตวแพทย์ ตลอดจนเข้าใจความสำคัญของทำฟาร์มปศุสัตว์ อย่างไรก็ตามเกษตรกรกลุ่มเป้าหมายจำนวนมากเป็นเกษตรกรที่อายุมาก ไม่คุ้นเคยกับการใช้แอปพลิเคชัน ดังนั้นโครงการนี้จะต้องเน้นการเข้าถึงกลุ่มยุวเกษตรกร (Young smart farmers, YSF)ให้ยุวเกษตรกรเหล่านี้สอนการใช้งานแก่เกษตรกรรายอื่นๆ ในพื้นที่ พร้อมๆ ไปกับเรียนรู้การใช้งานเพื่อพัฒนาฟาร์มโคนมของตนเอง 5) Revenue Stream:เกษตรกรจะมีรายได้เพิ่มขึ้นจากการที่โคนมได้รับการดูแลให้มีสุขภาพที่ดีขึ้น เกษตรกรจะได้รับทั้งปริมาณน้ำนมที่เพิ่มสูงขึ้นและคุณภาพน้ำนมที่ดีขึ้น ซึ่งคุณภาพน้ำนมที่ดีขึ้นสามารถจำหน่ายน้ำนมดิบได้ในราคาที่สูงขึ้น การที่กลุ่มเกษตรกรได้รับน้ำนมปริมาณมาก คุณภาพดี และมีความปลอดภัย จะเป็นกลุ่มเกษตรกรที่สร้างความโดดเด่น สร้างความสนใจแก่บริษัทที่รับซื้อน้ำนมดิบเพื่อการแปรรูปตลอดจนผู้บริโภคน้ำนมที่ใส่ใจสุขภาพ 6) Key Resources:ทรัพยากรหลักของโครงการนี้ได้แก่ แอปพลิเคชัน บุคลากรที่เกี่ยวข้องฝ่ายต่างๆ การสนับสนุนนักวิจัยของมหาวิทยาลัยมหาสารคาม ตลอดจนงบประมาณการถ่ายทอดเทคโนโลยีที่ได้รับจากกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม 7) Key Activities:กิจกรรมหลักของโครงการคือการสร้างแนวปฏิบัติของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการทางสัตวแพทย์ ส่งเสริมการให้คำแนะนำของสัตวแพทย์แก่เกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมผ่านแอปพลิเคชัน เกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมสามารถแจ้งสัตว์ป่วย การส่งต่อข้อมูลประวัติโคไปยังสัตวแพทย์ที่ดูแลประจำฟาร์ม การให้บริการทางสัตวแพทย์ การบันทึกข้อมูลการรักษาและการใช้ยาผ่านแอปพลิเคชัน 8) Key Partnerships:หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้แก่ (1) สหกรณ์ผู้เลี้ยงโคนมโคกก่อ จำกัด สหกรณ์โคนมมหาสารคาม จำกัด ใในฐานะเป็นหน่วยงานที่ดูแลเกษตรกรสมาชิก (2) สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดในฐานะหน่วยงานที่มีหน้าที่รับผิดชอบการเลี้ยงสัตว์ในพื้นที่และการดูแลสุขภาพสัตว์ (3) สำนักงานปศุสัตว์เขต 4 9) Cost structure:งบประมาณจัดสรรสำหรับการถ่ายทอดเทคโนโลยีให้แก่บุคลากรทุกฝ่ายได้ใช้ประโยชน์ โดยเฉพาะการส่งเสริมให้ยุวเกษตรกรและเกษตรกรได้ใช้เทคโนโลยี สร้างแรงจูงใจให้แก่เกษตรกร เกษตรกรมีแรงผลักดันให้มีการพัฒนาฟาร์ม ส่งเสริมสุขภาพโคนมให้ดียิ่งขึ้น ทั้งนี้ยังต้องปรับปรุงแอปพลิเคชันให้เกษตรกรสนใจใช้งานมากขึ้น มีความน่าใช้งาน รวมถึงจะต้องติดตามการใช้งานอย่างต่อเนื่องเพื่อให้โครงการบรรลุวัตถุประสงค์ รายงานโดย ผศ.น.สพ.ดร.มนกานต์ อินทรกำแหง วันที่รายงาน 01/10/2568 [5739] |
30000 | 139 |