เครือข่ายส่งเสริมธุรกิจเทคโนโลยีและนวัตกรรม
กปว.#
ผล : 1. จำนวนคนที่ได้รับการถ่ายทอดความรู้/เทคโนโลยี 2. จำนวนเทคโนโลยีที่ถ่ายทอด 2.1) การอบรมเชิงปฏิบัติการการเลี้ยงปลานิลอินทรีย์ 2.2) การอบรมเชิงปฏิบัติการการจัดทำโมเดลธุรกิจ (Business Model Canvas: BMC) 2.3) การอบรมเชิงปฏิบัติการการใช้เทคโนโลยีไมโคร- นาโนบับเบิลในการอนุบาลปลานิลในกระชัง 3. จำนวนวิทยากรที่สามารถถ่ายทอดความรู้ให้ผู้อื่นได้ 4. ร้อยละความพึงพอใจของผู้รับบริการ 5. จำนวนผู้นำความรู้/เทคโนโลยีที่ได้รับไปใช้ประโยชน์ 6. สัดส่วนมูลค่าทางเศรษฐกิจที่จะเกิดขึ้น (เฉพาะปี 2568) 7. จำนวนแปลงบ่อปลาที่ได้รับการยื่นขอรับรองมาตรฐาน
ผล : 1. จำนวนคนที่ได้รับการถ่ายทอดความรู้/เทคโนโลยี : 58 คน 2. จำนวนเทคโนโลยีที่ถ่ายทอด : 3 เรื่อง 3. จำนวนวิทยากรที่สามารถถ่ายทอดความรู้ให้ผู้อื่นได้ : 2 คน 4. ร้อยละความพึงพอใจของผู้รับบริการ : 85 ร้อยละ 5. จำนวนผู้นำความรู้/เทคโนโลยีที่ได้รับไปใช้ประโยชน์ : 58 คน 6. สัดส่วนมูลค่าทางเศรษฐกิจที่จะเกิดขึ้น (เฉพาะปี 2568) : 0.94 เท่า 7. จำนวนแปลงบ่อปลาที่ได้รับการยื่นขอรับรองมาตรฐาน : 18 แปลง
ผล : 1. ผลกระทบทางเศรษฐกิจ ก่อนเข้าร่วมโครงการ เกษตรกรผู้เลี้ยงปลานิลส่วนใหญ่พึ่งพาอาหารสำเร็จรูป ซึ่งมีราคาประมาณ 40 บาทต่อกิโลกรัม ส่งผลให้ต้นทุนการเลี้ยงค่อนข้างสูง โดยเฉพาะเมื่อเลี้ยงลูกปลานิลจำนวนมากในแต่ละรอบการผลิต หลังจากได้รับการถ่ายทอดความรู้ในการผลิตอาหารปลานิลอินทรีย์ด้วยวัตถุดิบท้องถิ่น เช่น กล้วยน้ำว้า ข้าวหัก รำ และถั่วเหลือง เกษตรกรสามารถลดต้นทุนค่าอาหารลงเหลือเพียง 20 บาทต่อกิโลกรัม หรือลดลงประมาณ 50% เมื่อเทียบกับการซื ้ออาหารสำเร็จรูป ในการเลี้ยงลูกปลานิล 3,000 ตัว ต่อไร่ ต่อรอบ (3 เดือน) พบว่าสามารถลดต้นทุนได้ราว 1,572 บาทต่อไร่ต่อรอบ หากคำนวณรวมเกษตรกรที่เข้าร่วมจำนวน 58 ราย ครอบคลุมพื้นที่ 138 ไร่ จะช่วยลดต้นทุนได้รวมประมาณ 216,936 บาทต่อรอบการเลี้ยง (3 เดือน) เมื่อคำนวณเป็นรายปี (4 รอบการเลี ้ยง) จะลดต้นทุนได้ประมาณ 650,000860,000 บาทต่อปี อย่างไรก็ตาม ในปีดังกล่าวเกิดเหตุการณ์น้ำท่วม ดังนั้นจึงคิดการลดต้นทุนการผลิตอาหารอินทรีย์เพียง 3 เดือน นอกจากการลดต้นทุนโดยตรงแล้ว กระบวนการผลิตอาหารอินทรีย์ยังส่งเสริมให้เกิด รายได้หมุนเวียนในชุมชน จากการจำหน่ายผลผลิตเกษตรอินทรีย์อื่น ๆ ที่ใช้เป็นวัตถุดิบในการทำอาหารปลา เช่น กล้วยน้ำว้า ถั่วเหลือง และข้าวหัก ซึ่งช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับผลผลิตท้องถิ่นและสร้างเศรษฐกิจหมุนเวียนในชุมชนได้อย่างเป็นรูปธรรม 2. ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม ก่อนและหลังการดำเนินโครงการ การยกระดับการเลี้ยงปลานิล อินทรีย์ตำบลต้าภายใต้แนวคิดหมู่บ้านวิทยาศาสตร์ (SCI) ไม่เพียงสร้างผลกระทบเชิงเศรษฐกิจแก่เกษตรกรเท่านั้น แต่ยังส่งผลเชิงบวกต่อสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะการจัดการระบบการเลี้ยงที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและการลดของเสียจากกระบวนการผลิต 3. ผลกระทบด้านสังคม เกิดการรวมกลุ่มเกษตรกรและเครือข่ายการผลิตและการตลาดเข้มแข็งขึ้น เกษตรกรพึ่งพาตนเองได้มากขึ้น ลดการพึ่งพาอาหารปลาสำเร็จรูปจากภายนอก เกิดการสร้างเครือข่ายความรู้ในรูปแบบ PGS (Participatory Guarantee System) ทำให้เกิด ความโปร่งใสและความร่วมมือในชุมชน คุณภาพชีวิตของครัวเรือนเกษตรกรดีขึ้นจากต้นทุนที่ลดลงและรายได้เพิ่มขึ้น ชุมชนมีบุคคลต้นแบบ (นักวิทย์ชุมชน) ที่สามารถถ่ายทอดองค์ความรู้ได้อย่างต่อเนื่อง สร้างวัฒนธรรมการเรียนรู้เชิงวิทยาศาสตร์และการพึ่งพาตนเองในระดับครัวเรือนและชุมชน
| ไตรมาส | ผลการดำเนินงาน | งบประมาณที่ใช้ | ผู้รับบริการ |
|---|---|---|---|
|
4 [5628] |
กิจกรรมที่ 1 การพัฒนาศักยภาพในการเลี้ยงปลานิลอินทรีย์ 
รายงานโดย อัมพิกา เตรียมไธสงค์ วันที่รายงาน 29/09/2568 [5628] |
92200 | 58 |
|
4 [5629] |
กิจกรรมที่ 2 การอบรมการจัดทำโมเดลธุรกิจ (Business Model Canvas: BMC) 
รายงานโดย อัมพิกา เตรียมไธสงค์ วันที่รายงาน 29/09/2568 [5629] |
31458 | 58 |
|
4 [5630] |
กิจกรรมที่ 3 การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีไมโครนาโนบับเบิล (Micro-Nano Bubbles: MNBs) 
รายงานโดย อัมพิกา เตรียมไธสงค์ วันที่รายงาน 29/09/2568 [5630] |
90198 | 58 |
|
4 [5631] |
กิจกรรมที่ 4 การติดตามและประเมินผลการดำเนินงานในพื้นที่ 
รายงานโดย อัมพิกา เตรียมไธสงค์ วันที่รายงาน 29/09/2568 [5631] |
18144 | 30 |