2568 ฟาร์มปลาช่อนต้นแบบองค์กรประมงท้องถิ่น ผสมผสานวิถีธรรมชาติ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม 0
ผล 1.การพัฒนารูปแบบการเลี้ยงปลาช่อนให้เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ 2.การพัฒนาสูตรอาหารจากวัตถุดิบในท้องถิ่นเสริมการเจริญเติบโตของปลาช่อน 3.การพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีกระบวนการผลิตและเก็บรักษาคุณภาพอาหารปลาช่อน
ผล 1. จำนวนคนที่ได้รับการถ่ายทอดความรู้/เทคโนโลยี ผู้เข้าร่วมทั้ง 33 คน ได้รับการถ่ายทอดองค์ความรู้ทั้งด้านทฤษฎีและการลงมือปฏิบัติจริง ส่งผลให้เข้าใจเนื้อหาและทักษะในการจัดการบ่อได้อย่างชัดเจน 2. จำนวนเทคโนโลยีที่ถ่ายทอดผ่านการจัดการองค์ความรู้ในกิจกรรมที่ 1 มีทั้งสิ้น 3 เรื่องหลักประกอบด้วย ประกอบด้วย 1. การวิเคราะห์คุณภาพดินและน้ำ 2.การปรับความเป็นกรดเป็นด่างตามความต้องการของบ่อ 3.การใช้จุลินทรีย์ในการเลี้ยงปลา 3. จำนวนวิทยากรที่สามารถถ่ายทอดความรู้ให้ผู้อื่นได้ ผู้ประกอบการและแกนนำเกษตรกรมีศักยภาพสูงจำนวน 2 คน สามารถเป็นพี่เลี้ยงแก่สมาชิกภายในกลุ่มและชุมชน ซึ่งขยายผลได้ตามเป้าหมายในปีถัดไป
ผล 1 ผลกระทบทางเศรษฐกิจ ก่อนดำเนินโครงการ ผู้ประกอบการมีการเตรียมบ่อโดยใช้ปูนและเปลี่ยนถ่ายน้ำตาม แนวปฏิบัติดั้งเดิม ส่งผลให้เกิดต้นทุนคงที่สูงจากวัสดุ สารเคมี และค่าพลังงาน หลังการอบรมพบว่าผู้ประกอบการนำแนวทางวิเคราะห์ดินและน้ำมาใช้อย่างเป็นระบบ ทำให้ลดการใส่วัสดุปรับปรุงดินและน้ำ เกินจำเป็น ประมาณการจากข้อมูลติดตามผลการดำเนินกิจกรรมของฟาร์มต้นแบบพบว่าต้นทุนการจัดการบ่อและพลังงานลดลงอย่างน้อย 30% นอกจากนี้ก่อนอบรม ผู้ประกอบการใช้อาหารสำเร็จรูป ซึ่งมีต้นทุนสูงโดยเฉลี่ย 1,200 บาทต่อกระสอบ ใช้ 10 กระสอบใน 4 เดือน รวมเป็น 12,000 บาทต่อรอบเลี้ยง ผลผลิตปลาขายได้เพียง 100 กิโลกรัมจาก 2,000 ตัว หรือคิดเป็น 5% ของจำนวนเริ่มต้น ข้อมูลแสดงให้เห็นว่าอัตราแลกเนื้อค่อนข้างสูง และการบริหารต้นทุนที่มีประสิทธิภาพยังไม่ดีเท่าที่ควร หลังอบรมเกษตรกรนำความรู้การผสมอาหารจากแหล่งวัตถุดิบท้องถิ่นมาใช้ โดยมีต้นทุนลดลงเหลือกิโลกรัมละ 40 บาท เมื่อเลี้ยงต่อไป 3 เดือนปลามีน้ำหนักเพิ่มขึ้นเฉลี่ยจาก 5 กรัมเป็น 20 กรัมต่อตัว แม้จะยังอยู่ในระหว่างการเลี้ยง จากรายงานผลลัพธ์ล่าสุดจากฟาร์มต้นแบบ พบว่าต้นทุนอาหารมีแนวโน้มลดลงเมื่อเทียบกับรอบก่อน และปลามีอัตราการเติบโตดี อาจเนื่องมาจากการจัดการฟาร์มที่ดีขึ้น นอกจากนี้หลังจากเข้าร่วมกิจกรรมฝึกปฏิบัติการผลิตอาหารปลาช่อนด้วยเครื่องอัดอาหารที่มีความปลอดภัย และการจัดการวัตถุดิบที่ดี ตามหลักการลดการสูญเสียและเพิ่มประสิทธิภาพในห่วงโซ่การผลิต พบว่าฟาร์มต้นแบบสามารถประหยัดต้นทุนค่าแรงและพลังงานในการผลิตอาหารผ่านการใช้งานเครื่องผลิตอาหารที่มีประสิทธิภาพได้ดียิ่งขึ้น สามารถลดความสูญเสียคุณภาพของวัตถุดิบและอาหารก่อนนำอาหารไปใช้ 2 ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม ก่อนการดำเนินโครงการ เกษตรกรเลี้ยงปลาด้วยวิธีดั้งเดิมซึ่งมีการเปลี่ยนถ่ายน้ำบ่อยครั้ง และมีการใช้สารเคมีควบคุมโรคปลาและคุณภาพน้ำ ส่งผลให้เกิดน้ำทิ้งที่มีสารอินทรีย์และสารเคมีปนเปื้อน ซึ่งนำไปสู่การเสื่อมโทรมของคุณภาพน้ำและภัยคุกคามต่อระบบนิเวศน้ำและสิ่งมีชีวิตในพื้นที่รอบข้าง อย่างไรก็ดี หลังการอบรมและนำความรู้ด้านการวิเคราะห์คุณภาพน้ำ การใช้จุลินทรีย์ชีวภาพเพื่อบำบัดน้ำ และการจัดการองค์ความรู้ทางวิทยาศาสตร์เข้ามาใช้ เกษตรกรสามารถลดความถี่ในการเปลี่ยนถ่ายน้ำลงเหลือเดือนละครั้ง ส่งผลให้ปริมาณน้ำเสียที่ปล่อยลงสู่สิ่งแวดล้อมลดลงอย่างมีนัยสำคัญ สอดคล้องกับการลดการใช้สารเคมีและยาปฏิชีวนะในฟาร์ม นอกจากนี้ยังแนะนำให้ใช้วัตถุดิบท้องถิ่นที่ปลอดภัย เช่น แหนแดงและรำละเอียด ซึ่งช่วยลดภาระต่อระบบนิเวศและลดของเสียทางอ้อมในห่วงโซ่การผลิตอาหารสัตว์น้ำ 3 ผลกระทบด้านสังคม โครงการได้พัฒนาศักยภาพชุมชนเกษตรกรรมอย่างยั่งยืน โดยก่อนกิจกรรมอบรม เกษตรกรขาดโอกาสเข้าถึงองค์ความรู้ใหม่ การทำงานมักแยกกลุ่ม รายบุคคล คุณภาพชีวิตและเศรษฐกิจครัวเรือนยังมีความมั่นคงน้อย รวมถึงการต่อยอดอาชีพเสริมมีข้อจำกัดทั้งด้านเครือข่ายและข้อมูล หลังดำเนินกิจกรรม มีผู้เข้าอบรมทั้งหมด 33 คนได้รับความรู้ทั้งทฤษฎีและปฏิบัติจริง เกิดกลุ่มแกนนำวิทยากรที่สามารถขยายผลสู่สมาชิกภายในกลุ่มและชุมชนอื่น กลุ่มเกษตรกรร่วมกันแลกเปลี่ยนทดลองและพัฒนาสูตรอาหารปลาจากวัตถุดิบในพื้นที่หลังจากการอบรม มีการนำเทคโนโลยีใหม่ไปปรับใช้ เช่น เครื่องผลิตอาหารปลา เครื่องตากวัตถุดิบด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ การรวมกลุ่มเริ่มต้นผลิตและจำหน่ายแหนแดง ส่งผลให้สมาชิกในชุมชนมีช่องทางรายได้เสริมและคุณภาพชีวิตที่มั่นคงมากขึ้น กระบวนการสร้างแกนนำและขยายองค์ความรู้กลุ่มนี้ ส่งเสริมให้เกิดความร่วมมือ ความสามัคคี และความเข้มแข็งในระดับชุมชน เกษตรกรสามารถถ่ายทอดเทคโนโลยีต่อยอดในปีต่อไป สะท้อนผลลัพธ์ของการยกระดับสังคมเกษตรกรรมอย่างมีองค์รวมและยั่งยืน
รายงานความก้าวหน้า
ไตรมาส | ผลการดำเนินงาน | งบประมาณที่ใช้ | ผู้รับบริการ |
---|---|---|---|
4 [20466] |
1. การอบรมเชิงปฏิบัติการ การพัฒนารูปแบบการเลี้ยงปลาช่อนให้เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ (การเตรียมบ่อ การตรวจ/ประเมิน และการจัดการคุณภาพตะกอนดิน และคุณภาพน้ำ การประเมิน/คัดเลือกลูกพันธุ์ปลาช่อน) 2. การอบรมเชิงปฏิบัติการ การพัฒนาสูตรอาหารจากวัตถุดิบในท้องถิ่นเสริมการเจริญเติบโตของปลาช่อน (การคัดสรรวัตถุดิบและการตรวจสอบคุณภาพของวัตถุดิบ การผลิตอาหารต้นทุนต่ำจากวัตถุดิบท้องถิ่น) 3. อบรมเชิงปฏิบัติการ พัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีกระบวนการผลิตอาหารสำหรับปลาช่อน (พัฒนานวัตกรรมระบบตากวัตถุดิบ พัฒนานวัตกรรมเครื่องอัดรีดเม็ดอาหาร)
วิทยากร อาจารย์อมรรัตน์ รังสิวิวัฒน์ รายงานโดย น.ส.ชลาลัย เหง้าน้อย วันที่รายงาน 30/09/2568 [20466] |
108508 | 33 |
3 [19444] |
กิจกรรมที่ 3การพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีกระบวนการผลิตและเก็บรักษาคุณภาพอาหารปลาช่อน อยู่ระหว่างการจัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์สำหรับฝึกอบรม โดยใช้งบประมาณ 20,800 บาท ในการจัดซื้อวัสดุเพื่อพัฒนาระบบอบแห้งวัตถุดิบด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ โดยออกแบบติดตั้งพัดลมพลังงานแสงอาทิตย์และแผ่นโพลีคาร์บอเนตเพื่อควบคุมความชื้นและแสงแดดอย่างเหมาะสม
วิทยากร ผู้ช่วยศาสตราจารย์จิตรา สิมาวัน จำนวนผู้เข้าร่วมอบรม 33 คน รายงานโดย น.ส.ชลาลัย เหง้าน้อย วันที่รายงาน 04/07/2568 [19444] |
20800 | 33 |
3 [19441] |
กิจกรรมที่ 2การพัฒนาสูตรอาหารจากวัตถุดิบในท้องถิ่นเสริมการเจริญเติบโตของปลาช่อน จัดระหว่างวันที่ 28–29มิถุนายน 2568มีผู้เข้าร่วมอบรม 33 คน เน้นการใช้วัตถุดิบท้องถิ่น เช่น แหนแดงตากแห้ง แหนแดงหมักยีสต์ ปลายข้าว กากถั่วเหลือง และรำละเอียด เพื่อพัฒนาอาหารที่เหมาะสมกับปลาช่อนในแต่ละช่วงวัย พร้อมอบรมการใช้เครื่องมือวิเคราะห์คุณภาพวัตถุดิบเบื้องต้น รวมถึงการทดลองผสมอาหารจริงเพื่อนำไปทดลองใช้ในฟาร์ม
วิทยากร อาจารย์อมรรัตน์ รังสิวิวัฒน์ จำนวนผู้เข้าร่วมอบรม 33คน รายงานโดย น.ส.ชลาลัย เหง้าน้อย วันที่รายงาน 04/07/2568 [19441] |
19240 | 33 |
3 [19437] |
กิจกรรมที่ 1การพัฒนารูปแบบการเลี้ยงปลาช่อนให้เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ จัดอบรมระหว่างวันที่ 26–27มิถุนายน 2568ณ บ้านหนองไผ่น้อย ตำบลนาหัวบ่อ อำเภอพรรณานิคม จังหวัดสกลนคร มีผู้เข้าร่วมอบรมจำนวน 33 คน โดยเนื้อหาประกอบด้วยการบรรยายและฝึกปฏิบัติเกี่ยวกับการวิเคราะห์คุณภาพดินและน้ำ เทคนิคการปรับสภาพดินด้วยปูนโดโลไมท์ที่เหมาะสมกับพื้นบ่อแต่ละฟาร์ม การใช้จุลินทรีย์เพื่อบำบัดน้ำ และเทคนิคการตรวจวัดความโปร่งใสของน้ำด้วย Secchi disc ตลอดจนการจัดการฟาร์มให้เป็นระบบนิเวศที่ยั่งยืน
วิทยากร อาจารย์อมรรัตน์ รังสิวิวัฒน์ จำนวนผู้เข้าร่วมอบรม 33คน รายงานโดย น.ส.ชลาลัย เหง้าน้อย วันที่รายงาน 04/07/2568 [19437] |
19240 | 33 |