4
[20696]
|
กิจกรรมที่ 12(วันที่ 8 กันยายน 2568):การอบรมเชิงปฏิบัติการ "5ส. พื้นฐานสู่โรงงานมาตรฐาน" และการระดมสมองเพื่อจัดทำขั้นตอนการผลิตตามแนวทาง GHP
วิทยากร (อ.ชายกร สินธุสัย),ดร.วรวิทย์ โกสลาทิพย์ และ ผศ.ดร.ทัศวัลย์ คัมภีระพันธุ์ได้ร่วมกันจัดกิจกรรมอบรมเชิงปฏิบัติการ เพื่อสร้างความเข้าใจในความสัมพันธ์ระหว่าง 5ส. ซึ่งเป็นเครื่องมือพื้นฐานในการจัดการสถานที่และบุคลากร, GHP ซึ่งเป็นกรอบมาตรฐานความปลอดภัยในการผลิตอาหาร, และเป้าหมายระยะยาวในการสร้างโรงงานแปรรูปผลผลิตทางการเกษตรที่ได้มาตรฐาน กิจกรรมนี้ชี้ให้เห็นว่า 5ส. คือ ฐานรากที่สำคัญที่สุดของระบบคุณภาพทั้งหมด ที่จะช่วยให้การประยุกต์ใช้เกณฑ์ GHP เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และนำไปสู่ผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรม คือ โรงงานที่ถูกสุขลักษณะและปลอดภัย การบรรยายภาคทฤษฎีจะครอบคลุมหลักการ 5ส. ทั้งหมด ได้แก่ สะสาง(แยกของที่จำเป็นและไม่จำเป็น), สะดวก(จัดวางสิ่งของให้เป็นระบบ), สะอาด(ทำความสะอาดพร้อมตรวจสอบ), สุขลักษณะ(รักษามาตรฐาน), และ สร้างนิสัย(ปฏิบัติจนเป็นธรรมชาติ) หลังจากนั้นจะเป็นกิจกรรม Workshop ให้ผู้ประกอบการได้ระดมสมองร่วมกัน เพื่อนำความรู้ที่ได้มาประยุกต์ใช้ในการเขียนขั้นตอนกระบวนการผลิตสินค้าของกลุ่มวิสาหกิจชุมชน 1 อย่าง ให้สอดคล้องตามหลักเกณฑ์ GHP ซึ่งถือเป็นการวางรากฐานความรู้ที่จำเป็นสำหรับผู้ประกอบการ เพื่อนำไปต่อยอดสู่การจัดตั้งโรงงานแปรรูปผลผลิตที่ได้มาตรฐานในอนาคต
วัตถุประสงค์:
1) เพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้และหลักการของกิจกรรม 5ส. ให้ผู้ประกอบการเข้าใจถึงความสำคัญในฐานะที่เป็นรากฐานของระบบมาตรฐาน GHP/GMPและการสร้างโรงงานที่ได้มาตรฐาน
2) เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถร่วมกันจัดทำเอกสารร่างขั้นตอนกระบวนการผลิตสินค้าตามหลักเกณฑ์ GHP ได้อย่างน้อย 1 ผลิตภัณฑ์ เพื่อเป็นแนวทางสู่การปฏิบัติจริง
ผลการดำเนินงาน:
ผู้เข้าร่วมอบรมมีความเข้าใจในหลักการและหัวใจสำคัญของ 5ส. และตระหนักว่า 5ส. เป็นพื้นฐานสำคัญของระบบคุณภาพทั้งหมด และยังเป็นพื้นฐานที่ต้องลงมือปฏิบัติก่อน จึงจะสามารถต่อยอดไปสู่มาตรฐานที่สูงขึ้นอย่าง GHP, GMP, HACCP และ ISO ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจากกิจกรรมระดมสมอง กลุ่มวิสาหกิจชุมชนได้ร่างเอกสารขั้นตอนกระบวนการผลิตสินค้า 1 ชนิด ที่มีโครงสร้างสอดคล้องกับแนวทาง GHP ซึ่งถือเป็นการนำความรู้จากภาคทฤษฎีมาสู่การปฏิบัติ และเป็นก้าวแรกที่เป็นรูปธรรมในการเตรียมความพร้อมสำหรับการยกระดับมาตรฐานการผลิตสู่การสร้างโรงงานที่ได้มาตรฐานในอนาคต
รายงานโดย ดร.วรวิทย์ โกสลาทิพย์ วันที่รายงาน 30/09/2568
[20696]
|
25000
|
25
|
4
[20693]
|
กิจกรรมที่ 11 (วันที่ 7 กันยายน 2568): การอบรมเชิงปฏิบัติการเกี่ยวกับแนวทางการปฏิบัติที่ดีในการผลิตอาหาร, การจัดการกล้วยอบก่อนเข้าสู่การอบระยะที่ 2 เพื่อคุมความชื้น, และกิจกรรมการออกแบบบรรจุภัณฑ์
หัวหน้าโครงการ รศ.ดร.ตุลา จูฑะรสก พร้อมด้วยผู้ร่วมโครงการ ได้แก่ อ.ชายกร สินธุสัย, ดร.วรวิทย์ โกสลาทิพย์, ดร.ณัฐพงษ์ นุติพาณิชย์, และ ผศ.ดร.ทัศวัลย์ คัมภีระพันธุ์ ได้ร่วมกันจัดการอบรมเชิงปฏิบัติการให้แก่ผู้เข้าอบรมจำนวนประมาณ 30 คน ซึ่งประกอบด้วยชาวบ้านและบุคลากรในพื้นที่วิสาหกิจชุมชน โดยกิจกรรมการอบรมแบ่งออกเป็น 3 ส่วนสำคัญ ดังนี้
(1) หลักเกณฑ์การปฏิบัติที่ดีในการผลิตอาหาร (GHP/GMP): วิทยากรได้ถ่ายทอดความรู้และเน้นย้ำประเด็นด้านการควบคุมคุณภาพและความปลอดภัยในทุกขั้นตอนการผลิต ตั้งแต่การคัดเลือกวัตถุดิบ การใช้และดูแลรักษาอุปกรณ์ การบรรจุ ขนส่ง และการจัดเก็บ ทั้งยังได้อธิบายถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดจากการปนเปื้อนทางกายภาพ เคมี และจุลินทรีย์ พร้อมเสนอแนวทางป้องกันที่เหมาะสม นอกจากนี้ยังได้กล่าวถึงคุณภาพอาหารในด้านโภชนาการและประสาทสัมผัส รวมถึงบทบาทของบรรจุภัณฑ์และฉลาก สรุปได้ว่าหัวใจสำคัญของ GHP/GMP คือ การบริหารจัดการที่มีระบบ ถูกสุขลักษณะ และปลอดภัยต่อผู้บริโภค ซึ่งเป็นก้าวสำคัญสู่การต่อยอดสร้างโรงงานแปรรูปผลผลิตที่สามารถผ่านการรับรองมาตรฐาน และเพิ่มความเชื่อมั่นให้แก่ผู้บริโภคและตลาด
(2) การจัดการกล้วยอบก่อนเข้าสู่การอบระยะที่ 2: ทีมงานโครงการฯ ได้สาธิตและอธิบายขั้นตอนการจัดการกล้วยที่ผ่านการอบระยะที่ 1 แล้ว โดยนำออกมาจากตู้อบและปรับแต่งรูปทรงก่อนเข้าสู่การอบระยะที่ 2 ทั้งนี้มีการทดลองนำกล้วยแบบเต็มผลมาทับเพื่อให้มีลักษณะแบน ขณะที่กล้วยอีก 3 แบบ (ผ่าครึ่ง, สไลด์แนวนอน 3 ชิ้น, และผ่า 4 ซีก) ถูกคงรูปทรงเดิมไว้ เพื่อให้ผู้ประกอบการได้เห็นความแตกต่างของผลลัพธ์ ทั้งในด้านความชื้น เนื้อสัมผัส และความสม่ำเสมอของผลิตภัณฑ์ การปฏิบัติดังกล่าวช่วยให้ผู้เข้าร่วมเข้าใจหลักการควบคุมความชื้นและมาตรฐานของผลิตภัณฑ์ก่อนเข้าสู่ตลาด
(3) การบรรจุซองและการออกแบบบรรจุภัณฑ์: ทีมงานได้จัดกิจกรรมเชิงปฏิบัติการให้ผู้เข้าร่วมได้ฝึกทักษะการบรรจุผลิตภัณฑ์ด้วยวิธีการซีลปิดผนึกซองทั้งแบบธรรมดาและแบบสุญญากาศ พร้อมให้ความรู้เกี่ยวกับการเลือกชนิดและขนาดของซองที่เหมาะสมกับลักษณะของผลิตภัณฑ์ นอกจากนี้ ยังได้สื่อสารให้เข้าใจถึงหลักการเลือกใช้สติ๊กเกอร์สัญลักษณ์ โลโก้ และฉลากสินค้า เพื่อสร้างความโดดเด่นและถ่ายทอดอัตลักษณ์ของ “ส.บุญมีฤทธิ์” ไปยังกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้อย่างชัดเจน
วัตถุประสงค์:
1) เพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้เกี่ยวกับหลักเกณฑ์การปฏิบัติที่ดีในการผลิตอาหาร (GHP/GMP) ที่ถูกสุขลักษณะในทุกขั้นตอนการผลิต
2) เพื่อสร้างความเข้าใจและทักษะในการจัดการกล้วยอบ ก่อนเข้าสู่การอบระยะที่ 2 โดยเน้นการควบคุมความชื้น และการจัดรูปทรงกล้วยให้ได้มาตรฐาน
3) เพื่อฝึกปฏิบัติและถ่ายทอดเทคนิคด้านการบรรจุผลิตภัณฑ์และการออกแบบบรรจุภัณฑ์
4) เพื่อเสริมสร้างพื้นฐานความรู้ด้านมาตรฐานการผลิตอาหาร ที่สามารถต่อยอดไปสู่การพัฒนาและจัดตั้งโรงงานแปรรูปผลผลิตที่ได้มาตรฐานในอนาคต อันจะช่วยเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันได้
ผลการดำเนินงาน: การอบรมเชิงปฏิบัติการในครั้งนี้มีผู้เข้าร่วมประมาณ 30 คน ซึ่งประกอบด้วยชาวบ้านและบุคลากรในพื้นที่วิสาหกิจฯ โดยสรุปการดำเนินงานครั้งนี้นอกจากจะช่วยเพิ่มพูนความรู้ด้านมาตรฐานการผลิตอาหารและทักษะการแปรรูป–บรรจุภัณฑ์แล้ว ยังช่วยยกระดับศักยภาพของวิสาหกิจชุมชน “ส.บุญมีฤทธิ์” ให้มีความพร้อมในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ ปลอดภัย และสามารถแข่งขันได้ในตลาดได้ โดยกิจกรรมสามารถบรรลุผลตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ ดังนี้
1) กิจกรรมการให้ความรู้ GHP/GMP ผู้เข้าร่วมสามารถเข้าใจหลักการปฏิบัติที่ดีในการผลิตอาหารอย่างเป็นระบบมากขึ้น รวมถึงสามารถระบุปัจจัยเสี่ยงจากการปนเปื้อนพร้อมทั้งแนวทางป้องกันได้ นอกจากนั้นการอบรม GHP/GMP ยังเป็นการปูพื้นฐานสำคัญในการยกระดับมาตรฐานการผลิตอาหาร เพราะเป็นเกณฑ์ที่ช่วยกำหนดแนวทางด้านสุขลักษณะและความปลอดภัย ซึ่งจะนำไปสู่การพัฒนาและจัดตั้งโรงงานแปรรูปผลผลิตที่ได้มาตรฐานในระดับสากล และเพิ่มความเชื่อมั่นให้แก่ผู้บริโภคและตลาด"
2) ด้านการจัดการกล้วยอบ ผู้เข้าร่วมได้ลงมือปฏิบัติจริงในการจัดการกล้วยก่อนเข้าสู่การอบระยะที่ 2 ซึ่งทีมงานโครงการฯ พบว่าการหั่นกล้วยในรูปทรงที่แตกต่างกัน ส่งผลต่อผิวสัมผัสของกล้วยหลังการอบอย่างชัดเจน ซึ่งรูปแบบกล้วยที่เป็นเส้นและเป็นแผ่นจะมีความแห้งหลังการอบมากกว่า กล้วยแบบเต็มใบและแบบผ่าครึ่ง นอกจากนั้นทีมงานยังพบว่าความสม่ำเสมอของความแห้ง ความกระด้าง และความชื้น ของเนื้อกล้วยยังคงเป็นปัญหาอยู่ ซึ่งต้องมีการทดลองปรับค่าความร้อนและระยะเวลาในการอบ รวมถึงรูปแบบการหั่นและความสุกของเนื้อกล้วย เพื่อหารูปแบบการอบกล้วยที่ได้เนื้อสัมผัสและรสชาติที่ต้องการ
3) การบรรจุผลิตภัณฑ์และการออกแบบ ผู้เข้าร่วมได้รับการฝึกฝนทักษะในการบรรจุและปิดผนึกซองสินค้า พร้อมทั้งเรียนรู้การเลือกซองที่เหมาะสม ตลอดจนการเลือกใช้สติ๊กเกอร์โลโก้และฉลากสินค้า ซึ่งช่วยเพิ่มความน่าสนใจและสร้างความน่าเชื่อถือของผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ “ส.บุญมีฤทธิ์”
รายงานโดย ดร.วรวิทย์ โกสลาทิพย์ วันที่รายงาน 30/09/2568
[20693]
|
35000
|
25
|
4
[20690]
|
กิจกรรมที่ 10 (วันที่ 6 กันยายน 2568): ลงพื้นที่เตรียมความพร้อมก่อนการอบรมเชิงปฏิบัติการด้านการผลิตอาหาร (Best Practice) และกิจกรรมการออกแบบบรรจุภัณฑ์
หัวหน้าโครงการ (รศ.ดร.ตุลา จูฑะรสก) พร้อมด้วยผู้ร่วมโครงการ ได้แก่ อ.ชายกร สินธุสัย, ดร.วรวิทย์ โกสลาทิพย์, ดร.ณัฐพงษ์ นุติพาณิชย์ และ ผศ.ดร.ทัศวัลย์ คัมภีระพันธุ์ ได้ลงพื้นที่เพื่อหารือและเตรียมการอบรมเชิงปฏิบัติการร่วมกับผู้ประสานงานหลักของวิสาหกิจชุมชน “ส.บุญมีฤทธิ์” ได้แก่ คุณสไลย์ดา วันทอง (คุณดา), คุณเพลิน ไหลยิ้ม (คุณเพลิน), คุณสมปอง วิเศษศักดิ์ (คุณปอง), คุณนภาพร ว่องวิกกาล (คุณพร) และคุณสุณิสา วันทอง (คุณบัว) โดยทีมงานโครงการฯ ได้ถ่ายทอดเทคนิคและแนวทางการปฏิบัติที่ถูกต้องให้แก่ผู้ประกอบการทั้งในกระบวนการอบกล้วยน้ำว้าและการบรรจุผลิตภัณฑ์
การทดลองอบกล้วยน้ำว้า ได้เน้นขั้นตอนการเตรียมกล้วย (Pre-treatment) ได้แก่ การแช่และล้างด้วยกรดซิตริกและเกลือบริโภค, การหั่นกล้วย 4 รูปแบบ (กล้วยเต็มผล, ผ่าครึ่ง, สไลด์แนวนอน 3 ชิ้น และผ่า 4 ซีก) เพื่อติดตามผลลัพธ์ด้านรสชาติ สี เนื้อสัมผัส และความหนึบหลังการอบ, รวมถึงการวางถาดในตู้อบลมร้อน ที่ถูกจัดให้ใกล้เคียงกับการผลิตจริง โดยการทดลองอบในครั้งนี้ใช้ความร้อน 60 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 8 ชั่วโมง รวมทั้งหมด 8 ถาด ซึ่งผลลัพธ์ของการอบกล้วยที่เน้นการวัดเนื้อสัมผัสและความแห้งของผลิตภัณฑ์ที่ จะถูกนำมาประเมินในวันถัดไป พร้อมกันนี้ทีมงานได้สาธิตการใช้งานตู้อบลมร้อนระบบไฟฟ้าอย่างละเอียด ตั้งแต่การตั้งเวลา, การควบคุมอุณหภูมิ, ระบบพัดลม การระบายความร้อน, ข้อควรระวัง, และการแก้ปัญหาเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน
การทดลองใช้เครื่องบรรจุสุญญากาศและเครื่องซีลปากถุงพลาสติก ได้จัดให้ผู้ประกอบการฝึกปฏิบัติจริงกับผลิตภัณฑ์ของกลุ่มวิสาหกิจ เช่น ลำไยอบแห้ง (ทั้งเนื้อและพร้อมเปลือก) และกล้วยอบ โดยเน้นการปรับค่าการทำงานของเครื่องบรรจุ ได้แก่ ความร้อน, ระยะเวลาในการให้ความร้อน, เวลาดูดอากาศ, และระดับแรงดันสุญญากาศ จากการทดลองพบว่าปัจจัยหลายประการ เช่น ความหนาของซองพลาสติก, ตำแหน่งการวางซอง, เนื้อสัมผัสของผลิตภัณฑ์, และระดับความร้อน ต้องสัมพันธ์กันเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่แนบสนิท หากปรับค่าไม่เหมาะสมจะทำให้เกิดช่องว่างระหว่างผลิตภัณฑ์และซอง ซึ่งอาจก่อให้เกิดการเสื่อมสภาพของสินค้าได้ง่ายขึ้น
วัตถุประสงค์: 1) เพื่อถ่ายทอดความรู้และเทคนิคที่ถูกต้องให้แก่ผู้ประกอบการในการอบกล้วยน้ำว้าด้วยตู้อบลมร้อนระบบไฟฟ้า เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพตามมาตรฐานที่กำหนด
2) เพื่อสร้างความเข้าใจและเสริมทักษะการใช้เครื่องบรรจุซองแบบสุญญากาศ และเครื่องซีลปากถุงพลาสติก เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถเลือกใช้ค่าในการทำงานที่เหมาะสมกับผลิตภัณฑ์แต่ละประเภท
ผลการดำเนินงาน: ผู้ประกอบการได้ลงมือปฏิบัติจริงในทุกขั้นตอนตั้งแต่การเตรียมกล้วยจนถึงการบรรจุ ซึ่งแม้จะมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นบ้าง เช่น การละเลยการสวมถุงมือ การจัดวางกล้วยในถาดไม่กระจายเต็มพื้นที่รวมถึงการวางกล้วยในทิศทางที่ทั้งขนานและตั้งฉากกับทิศทางการเคลื่อนที่ของลมร้อน และการวางวัตถุดิบที่ผ่านการล้างแล้วไว้บนพื้นโต๊ะโดยตรง แต่สิ่งเหล่านี้ได้กลายเป็นกรณีศึกษาให้ผู้ประกอบการเรียนรู้มาตรฐานการผลิตอาหารที่ถูกสุขลักษณะมากยิ่งขึ้น ขณะเดียวกัน การทดลองใช้เครื่องบรรจุสุญญากาศก็ทำให้ผู้ประกอบการเข้าใจถึงความสัมพันธ์ของปัจจัยต่างๆ ที่มีผลต่อคุณภาพบรรจุภัณฑ์และอายุการเก็บรักษาผลิตภัณฑ์ สะท้อนถึงความก้าวหน้าในการพัฒนาศักยภาพของวิสาหกิจชุมชน และเป็นพื้นฐานสำคัญสำหรับการผลิตในเชิงพาณิชย์ต่อไป
รายงานโดย ดร.วรวิทย์ โกสลาทิพย์ วันที่รายงาน 30/09/2568
[20690]
|
20000
|
20
|
4
[20688]
|
กิจกรรมที่ 9 (วันที่ 30 สิงหาคม 2568): ประชุมเตรียมงานเพื่อการอบรมเชิงปฏิบัติการ เกี่ยวกับการปฏิบัติที่ดีในการผลิตอาหาร และกิจกรรมการออกแบบบรรจุภัณฑ์
หัวหน้าโครงการ (รศ.ดร.ตุลา จูฑะรสก) พร้อมด้วยผู้ร่วมโครงการที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ ดร.วรวิทย์ โกสลาทิพย์, ดร.ณัฐพงษ์ นุติพาณิชย์ และ ผศ.ดร.ทัศวัลย์ คัมภีระพันธุ์ ได้ร่วมประชุมหารือเพื่อเตรียมความพร้อมและกำหนดแนวทางการจัดอบรมเชิงปฏิบัติการให้แก่ผู้ประกอบการในวันอาทิตย์ที่ 7 และวันจันทร์ที่ 8 กันยายน 2568 โดยมีเป้าหมายหลัก 2 ประการ คือ
(1) การทดลองอบกล้วยน้ำว้าให้ได้คุณภาพมาตรฐาน ครอบคลุมกระบวนการทั้งหมดตั้งแต่การคัดเลือกวัตถุดิบ, การทำความสะอาด, การปลอกเปลือกและการผ่ากล้วย, การเตรียมก่อนอบ (Pre-treatment), การจัดวางถาดและควบคุมการไหลเวียนของอากาศ, การอบแห้ง, การคลึง/ทับเพื่อให้ได้รูปทรงสม่ำเสมอ, การอบซ้ำเพื่อให้ได้ความชื้นตามเป้าหมาย, การคลายร้อน, และการตรวจสอบคุณภาพทั้งในด้านความชื้น สี กลิ่น และจุลินทรีย์
(2) การถ่ายทอดเทคนิคการบรรจุและออกแบบบรรจุภัณฑ์ ตั้งแต่การเลือกชนิดและขนาดของซองพลาสติกที่เหมาะสม, การเลือกเครื่องมือบรรจุ (ทั้งแบบสุญญากาศและแบบซีลปิดผนึกทั่วไป), การเลือกขนาดของกล้วยที่เหมาะสมกับบรรจุภัณฑ์, การปรับใช้โลโก้และฉลากสินค้าให้สอดคล้องกับรูปแบบบรรจุภัณฑ์, ตลอดจนการสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับการออกแบบที่ช่วยเพิ่มความน่าสนใจ และความน่าเชื่อถือของผลิตภัณฑ์
วัตถุประสงค์: 1) เพื่อทดลองหาวิธีการที่เหมาะสม และสร้างวิธีคิดให้กับผู้ประกอบการ ในการอบกล้วยน้ำว้าให้ได้คุณภาพตามที่ต้องการ
2) เพื่อสร้างความเข้าใจให้กับผู้ประกอบการเกี่ยวกับเทคนิคการบรรจุกล้วยลงซองพลาสติกและการออกแบบบรรจุภัณฑ์
ผลการดำเนินงาน: ทีมงานโครงการฯ ได้ร่วมกันกำหนดแนวทางและแบ่งหน้าที่ในการเตรียมความพร้อมสำหรับการอบรมเชิงปฏิบัติการ ทั้งในด้านวัตถุดิบ, อุปกรณ์, และเครื่องมือที่จำเป็น สำหรับการอบกล้วยน้ำว้า ตัวอย่างสิ่งที่ต้องเตรียม ได้แก่ กรดซิตริก, เกลือบริโภค, เครื่องบรรจุแบบสุญญากาศ, และเครื่องซีลปิดผนึกซองพลาสติก ส่วนในด้านการบรรจุและออกแบบบรรจุภัณฑ์ สิ่งที่ต้องจัดเตรียม ได้แก่ สติ๊กเกอร์สัญลักษณ์เครื่องหมายการค้า “ส.บุญมีฤทธิ์” ที่มีหลายขนาดและวัสดุซึ่งแตกต่างกัน, ซองพลาสติกหลายรูปแบบทั้งสำหรับบรรจุเป็นชิ้นและบรรจุเป็นแพ็ค, รวมถึงตัวอย่างฉลากสินค้าหลากหลายขนาด เพื่อนำมาใช้ประกอบการทดลองจริง ทั้งนี้ การเตรียมงานดังกล่าวจะช่วยให้การอบรมเป็นไปอย่างราบรื่นและสามารถถ่ายทอดความรู้ให้แก่ผู้ประกอบการได้อย่างครบถ้วนและมีประสิทธิภาพ
รายงานโดย ดร.วรวิทย์ โกสลาทิพย์ วันที่รายงาน 30/09/2568
[20688]
|
25000
|
5
|
4
[20675]
|
กิจกรรมที่ 8 (วันที่ 28 สิงหาคม 2568): ออกแบบสัญลักษณ์เครื่องหมายการค้า “ส.บุญมีฤทธิ์” โดยเพิ่มรูปแบบทางเลือก ตามความต้องการของผู้ประกอบการ
ผู้ร่วมวิจัย (. ดร.ณัฐพงษ์ นุติพาณิชย์) ได้รับมอบหมายจากผู้ประกอบการให้ดำเนินการออกแบบและพัฒนาสัญลักษณ์เครื่องหมายการค้า “ส.บุญมีฤทธิ์” โดยเพิ่มเติมองค์ประกอบ “ขอนไม้” ลงในโลโก้ เพื่อสื่อสารถึงความเป็นธรรมชาติ ความเรียบง่าย และการส่งต่อคุณค่าจากผู้ประกอบการสู่ผู้บริโภค อีกทั้งยังได้ออกแบบให้มีทั้งข้อความภาษาไทยและภาษาอังกฤษของคำว่า “ส.บุญมีฤทธิ์” เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นในการสื่อสารกับผู้บริโภคทั้งในประเทศและต่างประเทศ ตลอดจนเพื่อให้คณะกรรมการวิสาหกิจชุมชนมีทางเลือกที่หลากหลายมากยิ่งขึ้นในการพิจารณาคัดเลือก
วัตถุประสงค์: เพื่อจัดทำรูปแบบสัญลักษณ์เครื่องหมายการค้า “ส.บุญมีฤทธิ์” เพิ่มเติม ให้คณะกรรมการวิสาหกิจชุมชนใช้ประกอบการพิจารณาคัดเลือกรูปแบบที่เหมาะสมสำหรับการใช้งานจริงในเชิงพาณิชย์
ผลการดำเนินงาน: ผู้ออกแบบได้สร้างสัญลักษณ์เครื่องหมายการค้า “ส.บุญมีฤทธิ์” เพิ่มเติมจำนวน 6 แบบ ตามข้อเสนอแนะของผู้ประกอบการ โดยปรับให้เห็นองค์ประกอบของผลไม้หลักทั้งสามชนิด คือ มะม่วง มะยงชิด และลำไย อย่างชัดเจนมากขึ้น พร้อมทั้งปรับโทนการออกแบบให้สอดคล้องกับแนวคิดการ Re-brand ที่เน้นความทันสมัยแต่ยังคงอัตลักษณ์ชุมชน จากการนำเสนอให้แก่คณะกรรมการวิสาหกิจชุมชน ประธานกรรมการได้พิจารณาเลือกแบบที่ 1 เป็นแบบหลักเพื่อใช้ในการผลิตฉลากบรรจุภัณฑ์สินค้าต่อไป
รายงานโดย ดร.วรวิทย์ โกสลาทิพย์ วันที่รายงาน 30/09/2568
[20675]
|
6800
|
5
|
4
[20670]
|
กิจกรรมที่ 6 (วันที่ 1 สิงหาคม 2568): ออกแบบสัญลักษณ์เครื่องหมายการค้า เพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับผู้ประกอบการ และการจัดทำตัวอย่างป้ายสินค้าสำหรับบรรจุภัณฑ์กล้วยน้ำว้าอบ
ผู้ร่วมวิจัย (ดร.ณัฐพงษ์ นุติพาณิชย์) ได้ออกแบบสัญลักษณ์เครื่องหมายการค้าเพิ่มเติมจำนวน 6 แบบที่มีความทันสมัยมากขึ้น ซึ่งมีทั้งแบบตัวอักษรและภาพประกอบ (จากเดิมที่ออกแบบไว้ 8 แบบ รวมเป็น 14 แบบ) เพื่อนำเสนอเป็นทางเลือกให้ผู้ประกอบการและคณะกรรมการวิสาหกิจชุมชน “ส.บุญมีฤทธิ์” ในการพิจารณาคัดเลือกแบบที่เหมาะสมต่อการพัฒนาเป็นเครื่องหมายการค้าเพื่อใช้งานจริง ซึ่งการนำเสนอครั้งนี้จัดขึ้นในรูปแบบไฮบริด โดย ดร.ณัฐพงษ์ นุติพาณิชย์ เข้าร่วมประชุมแบบออนไลน์ แต่ในขณะที่ ดร.วรวิทย์ โกสลาทิพย์ (ผู้ร่วมโครงการฯ), ผศ.ดร.ทัศวัลย์ คัมภีระพันธุ์ (คลินิกเทคโนโลยี มจธ.), และ อ.ชายกร สินธุสัย (นักวิชาการอิสระด้านคุณภาพและมาตรฐาน) ลงพื้นที่ร่วมกับผู้ประกอบการ เพื่อศึกษารายละเอียดเพิ่มเติม เกี่ยวกับการใช้งานตู้อบลมร้อนระบบไฟฟ้า ในการทดลองผลิตกล้วยน้ำว้าอบ
วัตถุประสงค์: 1) เพื่อคัดเลือกเครื่องหมายการค้า “ส.บุญมีฤทธิ์” ที่จะนำไปพัฒนาต่อยอดในการใช้งานจริง โดยหารือร่วมกันระหว่างผู้ออกแบบและผู้ประกอบการ
2) เพื่อวางแผนการเตรียมวัตถุดิบ (กล้วยน้ำว้า) ส่วนประกอบ เครื่องมือ และอุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับการทดลองผลิตกล้วยน้ำว้าอบ
ผลการดำเนินงาน: จากการประชุมแบบไฮบริด เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2568 เป็นการนำเสนอแบบร่างทั้งหมด 14 แบบ ของแนวคิดโลโก้ Re-brand “ส.บุญมีฤทธิ์” โดยเน้นคำสำคัญ คือ “Organic Farm and Resort” เพื่อสะท้อนอัตลักษณ์ของวิสาหกิจชุมชน ซึ่งผู้เข้าร่วมประชุมได้ให้ข้อคิดเห็นเกี่ยวกับองค์ประกอบ เช่น การใช้คำว่า “Resort” และ “Organic” ความทันสมัยของตัวอักษร รวมถึงการคงลายเซ็น “ส.บุญมีฤทธิ์” ที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ ซึ่งโลโก้ที่นำเสนอมีทั้งแบบที่สื่อถึงผลไม้และคนในชุมชน เพื่อแสดงให้เห็นถึงการสร้างผลผลิตจากท้องถิ่น และสะท้อนความเป็นไทยพื้นถิ่น เช่น รูปวัด หรือพระพุทธรูป และแบบที่ปรับให้โมเดิร์น เรียบง่าย เพื่อเหมาะกับการวางจำหน่ายในห้างสรรพสินค้า อีกทั้งผู้ออกแบบได้มีการทดลองวางโลโก้บนบรรจุภัณฑ์จริง เช่น ซองมะม่วงและกล้วยอบแห้ง เพื่อให้เห็นภาพรวมการใช้งานจริง ซึ่งจากที่ประชุมได้มีการเลือก 2–3 แบบที่เหมาะสมเพื่อนำไปพัฒนาต่อ นอกจากนั้นได้มีการนัดหมายวันเวลา ในช่วงต้นเดือนกันยายน รวมถึงการจัดเตรียมความพร้อมของวัตถุดิบและอุปกรณ์ เพื่อให้ทีมงานโครงการฯ เข้ามาทำการอบรมเชิงปฏิบัติการ เกี่ยวกับการปฏิบัติที่ดีในการผลิตอาหาร และกิจกรรม 5 ส.
รายงานโดย ดร.วรวิทย์ โกสลาทิพย์ วันที่รายงาน 30/09/2568
[20670]
|
15000
|
15
|
4
[20673]
|
กิจกรรมที่ 7(วันที่ 23 สิงหาคม 2568):ออกแบบสัญลักษณ์เครื่องหมายการค้า ให้กับสมุนไพรแปรรูป สำหรับผู้ประกอบการนำเสนอผลผลิต (Pitching) ณ ม.เกษตรศาสตร์ วิทยาเขตบางเขน
ผู้ร่วมวิจัย (ดร.ณัฐพงษ์ นุติพาณิชย์) ได้รับมอบหมายจากผู้ประกอบการให้ดำเนินการออกแบบฉลากสินค้าสำหรับผลิตภัณฑ์สมุนไพรแปรรูป โดยนำสัญลักษณ์เครื่องหมายการค้า “ส.บุญมีฤทธิ์”ที่ผ่านการคัดเลือกมาก่อนหน้านี้ มาวางลงบนบรรจุภัณฑ์สินค้าจริงทั้งหมด 7 อย่าง ได้แก่ ใบมะกรูด, ผิวมะกรูด, ใบตะไคร้, ตะไคร้, เปลือกส้มโอ, ใบเตย, และ อัญชัน เพื่อใช้ในการนำเสนอในวันที่ 26 สิงหาคม 2568 ภายใต้งาน “เกษตรกรรุ่นใหม่ เชื่อมโอกาส สร้างตลาดคุณภาพ Agri Smart Matching Fair” ณ อาคารวชิรานุสรณ์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตบางเขน โดยงานดังกล่าวมีผู้ประกอบการจากภาคกลางและภาคตะวันตกเข้าร่วมประมาณ 70 ราย ซึ่งนับเป็นโอกาสสำคัญในการทดลองใช้สัญลักษณ์เครื่องหมายการค้า “ส.บุญมีฤทธิ์” บนบรรจุภัณฑ์จริงเพื่อสื่อสารกับภาคธุรกิจ
วัตถุประสงค์: เพื่อทดลองนำสัญลักษณ์เครื่องหมายการค้าและรูปแบบฉลากผลิตภัณฑ์สมุนไพรแปรรูปที่ได้รับการออกแบบไว้แล้ว มาประยุกต์ใช้กับสินค้าจริงของวิสาหกิจชุมชน “ส.บุญมีฤทธิ์”
ผลการดำเนินงาน: ผู้ประกอบการมีความประสงค์ให้พิมพ์ฉลากสินค้าลงบนสติ๊กเกอร์ใส เพื่อติดบนซองซิปกระดาษคราฟท์สีน้ำตาลที่มีช่องพลาสติกใส ซึ่งสามารถมองเห็นผลิตภัณฑ์ภายในได้อย่างชัดเจน ดังนั้นผู้ออกแบบจึงเลือกใช้สีดำเข้มเป็นสีหลักเพื่อสร้างความโดดเด่น โดยออกแบบพื้นที่ฉลากแบ่งเป็น 3 ส่วน ได้แก่ (1) สัญลักษณ์เครื่องหมายการค้า, (2) ชื่อสินค้า ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ, และ (3) รูปภาพและรายละเอียดสินค้าเพิ่มเติม นอกจากนี้ ยังได้จัดทำข้อมูลพื้นฐานเพิ่มเติมที่ผู้ประกอบการประสงค์จะสื่อสาร ได้แก่ เครื่องหมาย Q (รับรองมาตรฐานสินค้าเกษตร), GAP (Good Agricultural Practices), สัญลักษณ์ OTOP, ช่องทาง Facebook “ส.บุญมีฤทธิ์”, และหมายเลขโทรศัพท์ติดต่อ โดยแยกข้อมูลดังกล่าวออกจากฉลากหลักเพื่อเพิ่มความสะดวกและรวดเร็วในการติดลงบนบรรจุภัณฑ์ จากผลการนำเสนอผลิตภัณฑ์ในงาน พบว่าได้รับความสนใจจากบริษัทเอกชนหลายแห่ง เช่น บริษัท Soodera Inter Logistics Co., Ltd. (ด้านการส่งออก), บริษัท เอส-เค ฟูดส์ 1975 จำกัด, บริษัท เดอะบีลีฟวิ่ง จำกัด (ธุรกิจโรงแรม) และบริษัท สุวรรณชาด จำกัด (ในพระบรมราชูปถัมภ์) ซึ่งผลตอบรับดังกล่าวช่วยสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้ประกอบการมากยิ่งขึ้น ในการนำสัญลักษณ์เครื่องหมายการค้าที่ได้รับการออกแบบใหม่ไปใช้จริงในเชิงพาณิชย์
รายงานโดย ดร.วรวิทย์ โกสลาทิพย์ วันที่รายงาน 30/09/2568
[20673]
|
25000
|
5
|
3
[19580]
|
กิจกรรมที่ 5 (วันที่ 3 กรกฎาคม 2568): ดำเนินการออกแบบเครื่องหมายการค้า และพัฒนาฉลากสินค้า (Label) ให้การผลิตหลักของสวนเกษตร
หัวหน้าโครงการ (รศ.ดร.ตุลา จูฑะรสก) และผู้ร่วมวิจัย (ดร.ณัฐพงษ์ นุติพาณิชย์) ได้ร่วมกันนำเสนอแนวทางการพัฒนาเครื่องหมายการค้าภายใต้แบรนด์สินค้า “ส.บุญมีฤทธิ์” พร้อมทั้งเสนอแนวคิดในการต่อยอดผลิตภัณฑ์แปรรูปทางการเกษตรที่ผู้ประกอบการมีอยู่เดิม โดยมุ่งเน้นการเพิ่มมูลค่าสินค้าผ่านการออกแบบฉลากผลิตภัณฑ์ เพื่อเพิ่มความน่าสนใจแก่ผู้บริโภค และเสริมสร้างความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์สินค้า “ส.บุญมีฤทธิ์”
วัตถุประสงค์: 1) กำหนดแนวทางและเงื่อนไขในการออกแบบเครื่องหมายการค้าและฉลากสินค้า
2) เพื่อจัดทำแบบร่างทางเลือก (Design Options) ของเครื่องหมายการค้าและฉลากสินค้าให้สอดคล้องกับความต้องการ ของผู้ประกอบการ
ผลการดำเนินงาน: จากการหารือร่วมกับทีมผู้ประกอบการ พบว่าเครื่องหมายการค้าที่วิสาหกิจชุมชนสวนเกษตร ส.บุญมีฤทธิ์ใช้อยู่ในปัจจุบัน ยังไม่เคยมีการยื่นขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าอย่างเป็นทางการมาก่อน ดังนั้น คณะนักวิจัยจึงมีความจำเป็นต้องดำเนินการออกแบบเครื่องหมายการค้าใหม่ให้สอดคล้องกับหลักเกณฑ์เบื้องต้นในการขอยื่นจดทะเบียน ได้แก่
(1) ต้องมีลักษณะบ่งเฉพาะ (Distinctiveness),
(2) ต้องไม่มีลักษณะต้องห้ามตามกฎหมาย,
(3) ต้องไม่ซ้ำหรือคล้ายคลึงกับเครื่องหมายที่มีผู้จดทะเบียนไว้แล้ว,
(4) ต้องมีความชัดเจน และไม่ซับซ้อนจนเกินไป
โดยขนาดของเครื่องหมายที่ใช้ในการยื่นจดทะเบียนควรมีขนาดไม่เกิน 5×5 เซนติเมตร ทั้งนี้ คณะนักวิจัยได้พิจารณาเห็นว่า เครื่องหมายการค้าเดิมของวิสาหกิจชุมชน ส.บุญมีฤทธิ์ มีการออกแบบที่ค่อนข้างดีอยู่แล้ว เพียงแต่ควรมีการปรับเปลี่ยนรายละเอียดบางส่วน เช่น เส้นร่างหรือองค์ประกอบบางประการให้เหมาะสมกับประเภทของผลิตภัณฑ์ เพื่อรักษาเอกลักษณ์เดิมของแบรนด์ ส.บุญมีฤทธิ์ และสามารถสื่อสารถึงความเฉพาะเจาะจงของสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
รายงานโดย ผศ.ดร.ทัศวัลย์ คัมภีระพันธุ์ วันที่รายงาน 05/07/2568
[19580]
|
12000
|
6
|
3
[19579]
|
กิจกรรมที่ 4 (วันที่ 29 มิถุนายน 2568): สำรวจพื้นที่เพื่อศึกษาข้อมูลการพัฒนาเตาอบแก๊ส และพัฒนาฉลากสินค้า (Label) ในระยะถัดไป
หัวหน้าโครงการ (รศ.ดร.ตุลา จูฑะรสก) ผู้ร่วมโครงการที่เกี่ยวข้อง (ดร.วรวิทย์ โกสลาทิพย์ และ ดร.ณัฐพงษ์ นุติพาณิชย์) ได้ร่วมกับคลินิกเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี โดย ผศ.ดร.ทัศวัลย์ คัมภีระพันธุ์ ได้ลงพื้นที่เพื่อศึกษาข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการใช้งานเตาอบแก๊สและการติดตั้งระบบควบคุมแบบกึ่งอัตโนมัติ/ดิจิทัล เพื่อแปรรูปมะม่วงแผ่นอบแห้ง และผลผลิตการเกษตรอื่นๆ โดยหารือร่วมกับรองประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนสวนเกษตร ส.บุญมีฤทธิ์ (นายเพลิน ไหลยิ้ม), เจ้าหน้าที่ดูแลการแปรรูปและทดสอบสินค้า (นางสาวสมปอง วิเศษศักดิ์), เจ้าหน้าที่รับรองแขก (นางสาวนภาพร ว่องวิกกาล), และเจ้าหน้าที่การเงิน (นางสาวสุณิสา วันทอง) นอกจากนี้ ได้มีการรวบรวมข้อมูลจากผู้ประกอบการเกี่ยวกับปริมาณการผลิต ปริมาณสินค้า ขนาดบรรจุภัณฑ์ ราคาจำหน่าย รวมถึงประเภทผลผลิตทางการเกษตรที่ได้รับการแปรรูปและออกจำหน่ายในปัจจุบัน เพื่อใช้ประกอบการวางแผนการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า (Trademark) และการออกแบบฉลากสินค้า (Label) ต่อไป
วัตถุประสงค์: 1) ลงพื้นที่เพื่อหาเก็บข้อมูลเชิงลึกเพื่อสรุปความต้องการในการปรับปรุงการอบผลไม้ ด้วยการพัฒนาเตาอบแก๊สแบบกึ่งอัตโนมัติ
2) เก็บข้อมูลรายละเอียดสินค้าแปรรูปทางการเกษตรเพื่อการออกแบบฉลากสินค้าและวางแผนการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า
และการออกแบบฉลากสินค้า
ผลการดำเนินงาน: ภายหลังจากการประชุมหารือร่วมกัน ได้มีข้อสรุปว่า การดำเนินการออกแบบและติดตั้งเตาอบแก๊สเพื่อแปรรูปมะม่วงสดเป็นมะม่วงแผ่นอบแห้ง เป็นทางเลือกที่เหมาะสมที่สุดต่อข้อจำกัดของพื้นที่และปัญหาที่พบในปัจจุบัน ทั้งนี้ เนื่องจากยังมีปริมาณมะม่วงสดคงเหลือในสต็อกเป็นจำนวนมาก และการตากแดดโดยวิธีธรรมชาติยังคงเผชิญปัญหาด้านสุขอนามัย เช่น การถูกรบกวนจากสัตว์เลี้ยง นก หรือแมลง แม้จะใช้ตู้อบลมร้อนที่มีอยู่ก็ยังไม่สามารถควบคุมคุณภาพได้ดีนัก ส่งผลให้ผลิตภัณฑ์ที่ได้มีสีคล้ำไม่สม่ำเสมอ ขณะเดียวกัน เตาอบไฟฟ้าที่มีอยู่มีขนาดเล็ก ไม่เหมาะสำหรับการแปรรูปในปริมาณมาก และการเดินทางไปใช้โดมพาราโบล่าที่ยังมีอยู่นั้น ซึ่งเป็นของวิสาหกิจชุมชนอื่น และอยู่ไกลออกไป ประมาณ 20 กิโลเมตร ก็ยังพบข้อจำกัดเรื่องการควบคุม คุณภาพ สี และความแห้ง เนื่องจากไม่ได้ อยู่ในระยะที่ ฝ้าสังเกตได้ง่าย ทำให้เป็นปัญหาเรื่องการกลับแผ่นมะม่วงระหว่างวัน เพื่อให้ได้ มะม่วงอบแห้งทีทมีคุณภาพตามที่กำหนด ดังนั้นเพื่อให้สามารถออกแบบและติดตั้งเตาอบแก๊สได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงจำเป็นต้องพิจารณาองค์ประกอบและดำเนินการตามลำดับขั้นต่อไปนี้:
1. จัดหาข้อมูลจำเพาะ (Specification) ของเตาอบที่สามารถควบคุมระดับความชื้นได้
2. ดำเนินการติดตั้งเตาอบแก๊ส พร้อมทดลองใช้งานกับมะม่วงแผ่นอบแห้ง
3. จัดทำ Data Sheet เพื่อรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องในการทดลอง เช่น ค่าพลังงานที่ใช้ ระยะเวลาในการอบ ระดับความสุกของมะม่วง
ขนาดและรูปแบบการหั่น ระดับความชื้น จำนวนถาด/ชั้น และ คุณลักษณะของผลิตภัณฑ์ที่ได้ ได้แก่ รสชาติ สีสัน และเนื้อสัมผัส
4. วิเคราะห์และจัดทำกระบวนการ Pattern มาตรฐานสำหรับกระบวนการอบมะม่วงแผ่น
5. ติดตั้งโปรแกรมอบแห้งสำหรับผลไม้ชนิดอื่น เช่น กระท้อน ลำไย กล้วยน้ำว้า กล้วยไข่ เป็นต้น
6. จัดหาอุปกรณ์ประกอบ เช่น เครื่องวัดความชื้น เครื่องวัดอุณหภูมิ และจัดอบรมให้แก่ผู้ประกอบการในการใช้งานอุปกรณ์และเตาอบแก๊สอย่างถูกต้อ
รายงานโดย ผศ.ดร.ทัศวัลย์ คัมภีระพันธุ์ วันที่รายงาน 05/07/2568
[19579]
|
18000
|
14
|
3
[19567]
|
กิจกรรมที่ 3 ( 4 มิถุนายน 2568 ) การประชุมหารือเพื่อพิจารณาปรับเปลี่ยนแนวทางการดำเนินงาน ให้สอดคล้องกับผลผลิตที่เปลี่ยนแปลงตามฤดูกาล
ผศ.ดร.ทัศวัลย์ คัมภีระพันธุ์ (ผู้ประสานงานโครงการ คลินิกเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี) ได้ประชุมหารือร่วมกับ คุณสไลย์ดา วันทอง (ผู้ประสานงานหลักของวิสาหกิจชุมชนสวนเกษตร ส.บุญมีฤทธิ์) เกี่ยวกับการปรับเปลี่ยนแผนการดำเนินงานโครงการ เนื่องจากประเภทและปริมาณผลผลิตที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม รวมถึงข้อจำกัดด้านพื้นที่ในการจัดเก็บผลผลิตทางการเกษตรที่มีไม่เพียงพอ จึงทำให้ต้องมีการปรับเปลี่ยนวิธีการและเป้าหมายใหม่ในการพัฒนาระบบการเกษตรและผลิตภัณฑ์ใหม่ การรับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์ รวมถึงการเพิ่มรายได้และลดรายจ่ายของผู้ประกอบการ
วัตถุประสงค์: 1) เพื่อหาข้อสรุปการดำเนินกิจกรรมร่วมกับผู้ประกอบการ
2) เก็บข้อมูลรายละเอียดเชิงลึกจากผู้ประกอบ เพื่อปรับเปลี่ยนแผนดำเนินงาน
ผลการดำเนินงาน: ภายหลังจากการประชุมหารือร่วมกัน พบว่ามีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนแนวทางการดำเนินงาน จากเดิมที่เน้นการจัดการระบบน้ำในสวนผลไม้ มาเป็นการใช้เตาอบแก๊สเพื่อแปรรูปผลผลิตแทน ทั้งนี้ เนื่องจากในปัจจุบันเป็นช่วงฤดูฝน ส่งผลให้ระบบน้ำหยดไม่สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงจำเป็นต้องเลื่อนการดำเนินงานด้านระบบน้ำออกไปในปีถัดไป ขณะเดียวกัน เมื่อพิจารณาปริมาณมะม่วงที่มีการจัดเก็บในสต๊อก ณ ปลายเดือนมิถุนายน พบว่ามีจำนวนมากถึงประมาณ 60 กิโลกรัม ซึ่งเป็นผลจากการที่มะม่วงให้ผลผลิตในปริมาณมากในช่วงฤดูร้อนก่อนเข้าสู่ฤดูฝน (เดือนมีนาคมถึงพฤษภาคม) จึงได้มีการปรับเป้าหมายการดำเนินงาน โดยเน้นการแปรรูปมะม่วงสดเป็นมะม่วงแผ่นอบแห้ง ผ่านกระบวนการอบด้วยเตาอบแก๊ส นอกจากนี้ ยังมีข้อจำกัดด้านการจัดเก็บผลผลิต เนื่องจากไม่มีตู้แช่เย็นเพียงพอ จึงไม่สามารถเก็บรักษามะม่วงไว้ในอุณหภูมิห้องได้เป็นระยะเวลานาน ส่งผลให้จำเป็นต้องเร่งดำเนินการแปรรูปผลผลิตในช่วงเวลาดังกล่าว ทั้งนี้ มะม่วงแผ่นอบแห้งยังได้รับการส่งเสริมให้เป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์เพิ่มเติม (นอกเหนือจากกระท้อนหยี, วุ้นกรอบมะยงชิด, วุ้นกรอบมะม่วง, มะยงชิดอบแห้ง และลำไยสดอบแห้ง) ที่ผู้ประกอบการจะนำไปพัฒนาฉลากสินค้า เพื่อเพิ่มความน่าสนใจแก่ผู้บริโภค และเสริมสร้างความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์สินค้า “ส.บุญมีฤทธิ์” ต่อไป
รายงานโดย ผศ.ดร.ทัศวัลย์ คัมภีระพันธุ์ วันที่รายงาน 05/07/2568
[19567]
|
8000
|
14
|
2
[19065]
|
กิจกรรมที่ 2 (วันที่ 5 เมษายน 2568): การดำเนินการสำรวจพื้นที่เพื่อเตรียมพร้อม และศึกษาข้อมูลเชิงลึกเพื่อร่วมวางแผนงานในระยะถัดไป
หัวหน้าโครงการ (รศ.ดร.ตุลา จูฑะรสก) ผู้ร่วมโครงการที่เกี่ยวข้อง (ดร.วรวิทย์ โกสลาทิพย์ และ ดร.ณัฐพงษ์ นุติพาณิชย์) ได้ร่วมกับคลินิกเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี โดย ผศ.ดร.ทัศวัลย์
คัมภีระพันธุ์ ได้ลงพื้นที่เพื่อหาข้อสรุป (Mutual Interests) ร่วมกับผู้ประกอบการ เพื่อให้รูปแบบกิจกรรมในระยะที่ 1 ของโครงการ มีความสอดคล้องกับแผนการดำเนินงานที่ได้มีการปรับแก้ไขไปก่อนหน้านี้ โดยมีการประชุมร่วมกับคุณสไลย์ดา วันทอง ผู้ประสานงานหลักของวิสาหกิจชุมชนสวนเกษตร ส.บุญมีฤทธิ์ และรองประธานกลุ่มวิสาหกิจ (คุณเพลิน), ช่างเทคนิค (คุณแบ้งค์), เจ้าหน้าที่ดูแลการแปรรูปและทดสอบสินค้า (คุณสมปอง), เจ้าหน้าที่รับรองแขก (คุณพร), และเจ้าหน้าที่ดูแลเครือข่ายการท่องเที่ยว (คุณสมใจ) (ดังรูปที่ 2 ด้านล่าง) นอกจากนั้นได้มีการเก็บข้อมูลรายละเอียดเชิงลึกจากผู้ประกอบ เช่น ข้อมูลค่าไฟฟ้าและระบบการบริหารจัดการเพื่อกระจายน้ำสำหรับเกษตรแปลงใหญ่, ค่าแรงงานที่ถูกจ้างเต็มเวลา (หรือแบบจ้างเหมา) ตลอดปี และสัดส่วนของผลผลิตภายในสวนเกษตร (รวมค่าใช้จ่าย 6,000 บาท และมีผู้เข้าร่วมงาน 10 คน)
วัตถุประสงค์: 1) ลงพื้นที่เพื่อหาข้อสรุปการดำเนินการกิจกรรมร่วมกับผู้ประกอบการ
2) เก็บข้อมูลรายละเอียดเชิงลึกจากผู้ประกอบ เพื่อวางแผนการแก้ไขปัญหา
ผลการดำเนินงาน: การดำเนินการเยี่ยมชมพื้นที่สวนผลไม้ ส.บุญมีฤทธิ์ เรื่องการจัดการน้ำในสวนผลไม้ พบว่าระบบการให้น้ำกับพื้นยังต้องอาศัยการดำเนินการในลักษณะที่ต้องใช้คนในการดำเนินการ ดังนั้นจึงเห็นด้วยการจัดการให้มีระบบการให้น้ำที่ควบคุมอัตโนมัติในพื้นที่ที่เป็นสวนกล้วยขนาดประมาณ 100 เมตร x 50 เมตร โดยทีมงานได้หารือวางแผนการจัดการโดยเริ่มออกแบบกำหนดจำนวนโซลินอยวาล์ว แบบการวางระบบน้ำ รวมถึงอุปกรณ์ในการเดินระบบน้ำและอุปกรณ์ในการควบคุมเปิดปิดวาล์วอัตโนมัติ (ดังรูปที่ 3 ด้านล่าง) นอกจากนั้นได้มีการนำเสนอแนวคิดเบื้องต้นเกี่ยวกับการออกแบบโรงเรือน ภายในพื้นที่ด้านหลังออฟฟิส ขนาด 10.5 x 10.5 เมตร เพื่อออกแบบโครงสร้างพื้นฐานในการผลิตสินค้าเกษตร รวมถึงได้วางแนวทางการขอรับรองมาตรฐานผลิตผลหรือผลิตภัณฑ์สินค้าเกษตร และการออกแบบแพคเกจจิ้งเพื่อส่งเสริมการขาย
รายงานโดย ผศ.ดร.ทัศวัลย์ คัมภีระพันธุ์ วันที่รายงาน 05/04/2568
[19065]
|
6000
|
10
|
2
[19064]
|
รายละเอียดการดำเนินงาน
กิจกรรมที่ 1 (วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2568): ปรับแผนงานในข้อเสนอโครงการให้เข้ากับเป้าหมายและงบประมาณที่ได้รับการอนุมัติ
หัวหน้าโครงการ (รศ.ดร.ตุลา จูฑะรสก) ผู้ร่วมโครงการที่เกี่ยวข้อง (ดร.วรวิทย์ โกสลาทิพย์ และ ดร.ณัฐพงษ์ นุติพาณิชย์) ได้ร่วมกับคลินิกเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี โดย ผศ.ดร.ทัศวัลย์ คัมภีระพันธุ์ ได้หารือร่วมกันเพื่อปรับแผนการดำเนินกิจกรรมในปีที่ 1 ให้สอดคล้องกับระยะเวลาของโครงการ เป้าหมายการดำเนินงาน และงบประมาณที่ได้รับการอนุมัติ (จากเดิมที่เสนอ 244,800 บาท ปรับลดเหลือ 195,800 บาท) โดยการหารือมีการคำนึงถึงการแก้ปัญหาและประโยชน์จะที่เกิดขึ้น แก่วิสาหกิจชุมชนสวนเกษตร ส.บุญมีฤทธิ์ เป็นประเด็นหลัก ทั้งในเรื่องระบบบริหารจัดการน้ำ การออกแบบโรงเรือน และกระบวนการขอรับรองมาตรฐานผลิตผลหรือผลิตภัณฑ์สินค้าเกษตร ที่จะเกิดขึ้นในระยะที่ 1 ของการดำเนินงาน โดยมีผู้เข้าร่วมประชุมจำนวน 4 คน และรูปภาพที่ 1 ด้านล่าง เป็นภาพบรรยากาศการนำเสนอภาพรวมของโครงการฯ (Pitching) ณ วันที่ 28 พฤศจิกายน 2567 ในรูปแบบการประชุมทางไกลผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ด้วยโปรแกรม (Zoom Cloud Meeting) ระหว่างทีมผู้ดำเนินโครงการ 4 คน และกรรมการจากสำนักปลัดกระทรวงศึกษาธิการ คลินิกเทคโนโลยี มจธ. และผู้ทรงคุณวุฒิจากหลายภาคส่วน รวม 9 คน
รูปที่ 1: การนำเสนอภาพรวมของโครงการฯ (Pitching) ณ วันที่ 28 พฤศจิกายน 2567
ผ่านการประชุม Zoom Cloud Meeting
รายงานโดย ผศ.ดร.ทัศวัลย์ คัมภีระพันธุ์ วันที่รายงาน 05/04/2568
[19064]
|
0
|
9
|