กิจกรรม ที่ 1

การถ่ายทอดความรู้ด้านการออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์ สมุนไพรให้เหมาะสมกับพฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมายและศักยภาพของชุมชนการถ่ายทอดความรู้ด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ และบริการการท่องเที่ยวเชิงส่งเสริมสุขภาพสมุนไพรไทย ได้ดำเนินการจัดกิจกรรมอบรมเชิงปฏิบัติการหัวข้อ “การออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้เหมาะสมกับพฤติกรรมผู้บริโภค”ในวันเสาร์ที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2568 วิทยากรโดย รองศาสตราจารย์ ดร. ตติยา เทพพิทักษ์ อาจารย์ประจำภาควิชาศิลปะและการออกแบบ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร โดยการถ่ายทอดความรู้ด้านการออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้เหมาะสมกับพฤติกรรมผู้บริโภคนี้ มีสมาชิกวิสาหกิจชุมชนปลูกและแปรรูปสมุนไพรทับยายเชียงเข้าร่วมจำนวน 50 คน สำหรับกิจกรรมอบรมเชิงปฏิบัติการในหัวข้อ “การพัฒนาผลิตภัณฑ์ประคบสมุนไพร และสมุนไพรชงดื่ม ตามศาสตร์แพทย์แผนไทย” ดำเนินการจัดกิจกรรมในวันอาทิตย์ที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2568 วิทยากรโดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.อนุสรา        สีหนาท อาจารย์นพวรรณ วัชรพุทธ และ อาจารย์ตฤณดนัย อสุนี อาจารย์ประจำภาควิชาการแพทย์แผนไทย คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร โดยการถ่ายทอดความรู้ด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ประคบสมุนไพร และสมุนไพรชงดื่ม ตามศาสตร์แพทย์แผนไทยนี้ มีสมาชิกวิสาหกิจชุมชนปลูกและแปรรูปสมุนไพรทับยายเชียงเข้าร่วมจำนวน 50 คน

ภาพกิจกรรม

1. กลยุทธ์การตลาดผลิตภัณฑ์ถุงประคบสมุนไพร

กลยุทธ์ผลิตภัณฑ์ (Product strategy)

                   ชื่อผลิตภัณฑ์:ผลิตภัณฑ์ถุงประคบสมุนไพร   ตราสินค้า:“ศิราภัจจ์”   

สรรพคุณ: บรรเทาอาการปวดเมื่อย อาการบวม การหมุนเวียนโลหิต ช่วยผ่อนคลาย

บรรจุภัณฑ์:สมุนไพรถูกบรรจุให้ถุงผ้าที่มีเนื้อผ้านุ่มไม่ระคายเคืองผิว จากนั้นนำถุงประคบบรรจุลงกล่องกระดาษเนื้อสัมผัสเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ที่ออกแบบมาเพื่อให้สะดวกในการใช้งาน ทั้งบริเวณต้นคอ และ บ่า ไหล่ หยิบจับสะดวก เพียงนำเข้าไมโครเวฟอุ่นร้อนพร้อมใช้งาน ขนาดบรรจุ 90 กรัม

กลยุทธ์ราคา (Price strategy)

จากการคำนวนต้นทุนค่าดำเนินการและบริหารจัดการ 20% ของราคาต้นทุนวัตถุดิบ วัสดุและค่าแรงจะได้ต้นทุนผลิตภัณฑ์ถุงประคบสมุนไพรรวมเป็นเงิน 74.18 บาทและจากการวิเคราะห์ราคาของคู่แข่งขันที่มีในท้องตลาด พบว่า ราคาอยู่ในช่วง 159 - 1,390 บาท คิดเป็นอัตรากำไรขั้นต้น 53.35%-94.66% ของราคาจำหน่าย

ทั้งนี้ จำเป็นต้องกำหนดตำแหน่งทางการตลาด ในการกำหนดราคาและช่องทางจำหน่าย  พบว่า ตลาดที่แบรนด์ของกลุ่มต้องการทำตลาดเป็นกลุ่มเป้าหมายวัยทำงานที่มีการใช้จ่ายด้านอุปโภคในด้านการรักษาเพียง 1.2%หรือ 272 บาท จากข้อมูลค่าใช้จ่ายของประชากรไทย สำนักงานสถิติแห่งชาติ

ดังนั้น กลยุทธ์การตั้งราคา จึงใช้วิธีโดยใช้ต้นทุนเป็นฐาน (Cost base plus pricing) ร่วมกับการตั้งราคาตามหลักจิตวิทยา (Psychological Pricing) เป็นราคาแบบเลขคู่ เพื่อสื่อถึงคุณภาพของผลิตภัณฑ์ที่ดี มุ่งสร้างภาพลักษณ์ความเป็นสินค้าพรีเมียม

ราคาปลีก (Retail Price) ที่ควรกำหนด คือ 340 - 380 บาท

ราคาส่ง (Whole sales) ควรกำหนดส่วนลดตามปริมาณ (Volume Discount) และต้องไม่มากไปจนกระทบส่วนปลอดภัยของกำไรที่สามารถลดให้ได้ (Safty margin)

กลยุทธ์ช่องทาง (Place strategy)

1 ช่องทางการจัดจำหน่ายแบบดั้งเดิม

                    สำหรับกลุ่มผู้อุปโภคให้ความสำคัญกับการที่ผลิตภัณฑ์มีวางจำหน่ายตามร้านจำหน่ายยาและ

อุปกรณ์ทางแพทย์แผนไทยประยุกต์เพื่อสุขภาพ ร้านสะดวกซื้อ ห้างสรรพสินค้าและการออกบูธงานแฟร์ที่เกี่ยวข้อง

ดังนั้น ผู้บริหารจึงควรขยายช่องทางการจำหน่ายดังกล่าวก่อนช่องทางอื่น ๆ

2 ช่องทางการจัดจำหน่ายสมัยใหม่

ช่องทาง E-Marketplaceเช่น Shopee และ Lazada เนื่องจากการเข้าถึงเว็บไซต์ หรือสื่อโซเชียลอื่นๆ เป็นไปได้ยากที่ลูกค้าหน้าใหม่จะรับรู้ในแบรนด์ ดังนั้น จึงต้องใช้ marketplace ที่มีชื่อเสียง โดยเฉพาะออนไลน์ที่เป็นผู้บริโภคชาวไทยนิยมใช้เป็นช่องทางการค้นหาและสั่งซื้อมากที่สุด คือ Shopee และ Lazada

ช่องทาง Social mediaเช่น Facebook, TikTok & Line OA  เพราะผู้บริโภคเลือกใช้ช่องทาง Social media เพื่อความบันเทิง การติดต่อสื่อสาร เป็นช่องทางในการเรียนรู้และเลือกซื้อสินค้าที่ตนสนใจ จากการวิจัยการตลาดออนไลน์ในไทย พบว่า 3 ช่องทางดังกล่าว ได้รับความนิยมสูงสุดจากผู้บริโภคชาวไทย

3 ช่องทางการชำระเงิน

ลูกค้าต้องการการชำระเงินที่หลากหลายช่องทาง บริษัทควรวางระบบการชำระเงินและ

Link สำหรับตรวจสอบ พร้อมระบบป้องกันการโจรกรรมการเงินออนไลน์ไว้ล่วงหน้า และควรแยกบัญชีการเงินของกิจการออกจากบัญชีส่วนตัว

                     4 ช่องทางขนส่ง   

ทั้งผู้บริโภคและผู้ประกอบการ ต้องการนำส่งสินค้าที่สะดวก รวดเร็ว ไม่เกิดความเสียหาย จึง

ควรเลือกคนกลางด้านการขนส่งที่ประหยัดต้นทุนและรักษาคุณภาพที่ลูกค้าต้องการ   

กลยุทธ์ส่งเสริมตลาด (Promotion strategy)

ควรเสริมกลยุทธ์เพื่อสร้างการรับรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ อย่างต่อเนื่อง เนื่องจากเดิมยังไม่มีเจ้าหน้าที่

ด้านการตลาดเป็นการเฉพาะ เน้นการสื่อสารผ่านช่องทางออนไลน์เป็นสำคัญ การออกร้านจำหน่ายสินค้างานแฟร์ ที่เกี่ยวข้องกับแพทย์แผนไทยประยุกต์จะช่วยโปรโมทให้แบรนด์เป็นที่รู้จักเพิ่มขึ้น

                ในมุมมองผู้ประกอบการที่เป็นลูกค้าที่องค์กรมุ่งหวัง พบว่า ปัจจัยด้านการมีพนักงานส่งเสริมการขายคอยอำนวยความสะดวก ให้ข้อมูลที่ครบถ้วน เชื่อมความสัมพันธ์ที่ดี และปัจจัยด้านมีการโฆษณา / ประชาสัมพันธ์ ผลิตภัณฑ์ทั้งทางออฟไลน์และออนไลน์ เพื่อช่วยส่งเสริมการขายอย่างต่อเนื่อง ด้านการให้เครดิตการค้าที่เหมาะสม และมีบริการจัดส่งสินค้าฟรี เป็นสิ่งกระตุ้นยอดขายที่ได้ผลมาตลอดในทุกอุตสาหกรรม

                ในมุมมองของผู้อุปโภคบริโภคที่เป็นลูกค้าที่มุ่งหวังขององค์กร พบว่า ปัจจัยด้านการมีบริการเก็บเงินปลายทาง และมีบริการจัดส่งฟรี เป็น 2 ปัจจัยที่ผู้อุปโภคบริโภคให้ความสำคัญระดับมากที่สุด ปัจจัยด้านการมีรีวิวจากผู้บริโภค หรือบุคคลที่มีปัญหาเดียวกัน มีความสำคัญระดับมาก  ทั้งนี้ปัจจัยด้านการมี ดารา / นักร้อง / reviewer / blogger / net idol / influencer เลือกรับประทาน ให้การยอมรับ พูดถึงผลิตภัณฑ์ เป็นปัจจัยที่มีความสำคัญระดับปานกลาง ดังนั้น ไม่ควรให้ความสำคัญตามกระแส เพราะการใช้ผู้มีอิทธิพลทางความคิดเหล่านี้มีค่าใช้จ่ายที่สูง ไม่คุ้มค่า

การคำนวณต้นทุนเชิงกลยุทธ์และการกำหนดราคาขาย

ผลิตภัณฑ์ถุงประคบสมุนไพร และผลิตภัณฑ์สมุนไพรชงดื่ม

ผลิตภัณฑ์แผ่นประคบสมุนไพร

1. ต้นทุนวัตถุดิบ

1. ต้นทุนวัสดุและค่าแรง

1. ค่าดำเนินการและบริหารจัดการ 20% ของราคาต้นทุนวัตถุดิบ วัสดุและค่าแรง

[(20%) x (14.82+47)] = 12.36 บาท

ดังนั้น ต้นทุนผลิตภัณฑ์ถุงประคบสมุนไพรเป็นเงิน 74.18 บาท

1. เปรียบเทียบราคาจำหน่ายกับผลิตภัณฑ์ในตลาด

5.จากข้อมูลราคาจำหน่ายกับผลิตภัณฑ์ในตลาด ประมาณการราคาจำหน่ายผลิตภัณฑ์ถุงประคบสมุนไพร 159 - 1,390 บาท คิดเป็นอัตรากำไรขั้นต้น 53.35%-94.66% ของราคาจำหน่าย

กิจกรรม ที่ 3

การถ่ายทอดความรู้ด้านการสร้างตราสินค้า (Branding) และ Corporate Identity ของผลิตภัณฑ์     การออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่เหมาะสมกับผลิตภัณฑ์สมุนไพรได้ดำเนินการจัดกิจกรรมอบรมเชิงปฏิบัติการหัวข้อ “การสร้างตราสินค้า และการออกแบบอัตลักษณ์องค์กรของผลิตภัณฑ์สมุนไพรให้สอดคล้องกับการตลาดของผลิตภัณฑ์สมุนไพร” ในวันเสาร์ที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2568 วิทยากรโดยรองศาสตราจารย์ ดร. ตติยา เทพพิทักษ์ อาจารย์ประจำภาควิชาศิลปะและการออกแบบ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร โดยการถ่ายทอดความรู้ด้านการสร้างตราสินค้า และการออกแบบอัตลักษณ์องค์กรของผลิตภัณฑ์สมุนไพรให้สอดคล้องกับการตลาดของผลิตภัณฑ์สมุนไพรนี้ มีสมาชิกวิสาหกิจชุมชนปลูกและแปรรูปสมุนไพรทับยายเชียงเข้าร่วมจำนวน 50 คน สำหรับกิจกรรมอบรมเชิงปฏิบัติการในหัวข้อ “การออกแบบบรรจุภัณฑ์ผลิตภัณฑ์สมุนไพรประคบ และสมุนไพรชงดื่ม” ดำเนินการจัดกิจกรรมในวันเสาร์ที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2568 วิทยากรโดยรองศาสตราจารย์     ดร. ตติยา เทพพิทักษ์ อาจารย์ประจำภาควิชาศิลปะและการออกแบบ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร และ รองศาสตราจารย์พันธ์ณรงค์ จันทร์แสงศรี อาจารย์ประจำภาควิชาอุตสาหกรรมเกษตร คณะเกษตรศาสตร์ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยนเรศวร โดยการถ่ายทอดความรู้ด้านการออกแบบบรรจุภัณฑ์ผลิตภัณฑ์สมุนไพรประคบ และสมุนไพรชงดื่ม มีสมาชิกวิสาหกิจชุมชนปลูกและแปรรูปสมุนไพรทับยายเชียงเข้าร่วมจำนวน 50 คน

ภาพกิจกรรม

กิจกรรม ที่ 2

การถ่ายทอดความรู้ด้านการตลาด และการวิเคราะห์ทิศทางตลาดการคำนวณต้นทุน การกำหนดราคาขาย และเพิ่มช่องทางการทำการตลาดสำหรับผลิตภัณฑ์สมุนไพรของชุมชนได้ดำเนินการจัดกิจกรรมอบรมเชิงปฏิบัติการหัวข้อ “การตลาด และการวิเคราะห์ทิศทางตลาด และช่องทางการจัดจำหน่ายสำหรับผลิตภัณฑ์สมุนไพร”ในวันอาทิตย์ที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2568 วิทยากรโดย อาจารย์บุณย์สุภางค์ สุวรรณธเนศ อาจารย์ประจำ ภาควิชาวิทยาศาสตร์การเกษตร คณะเกษตรศาสตร์ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยนเรศวร โดยการถ่ายทอดความรู้ด้านการตลาด และการวิเคราะห์ทิศทางตลาด และช่องทางการจัดจำหน่ายสำหรับผลิตภัณฑ์สมุนไพรนี้ มีสมาชิกวิสาหกิจชุมชนปลูกและแปรรูปสมุนไพรทับยายเชียงเข้าร่วมจำนวน 50 คน สำหรับกิจกรรมอบรมเชิงปฏิบัติการในหัวข้อ “การคำนวณต้นทุนเชิงกลยุทธ์ และการกำหนดราคาขายผลิตภัณฑ์สมุนไพร” ดำเนินการจัดกิจกรรมในวันอาทิตย์ที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2568 วิทยากรโดย ดร. เนื้อทิพย์ สุ่มแก้ว อาจารย์ประจำภาควิชาการบัญชี คณะบริหารธุรกิจ เศรษฐศาสตร์และการสื่อสาร มหาวิทยาลัยนเรศวร โดยการถ่ายทอดความรู้ด้านการคำนวณต้นทุนเชิงกลยุทธ์ และการกำหนดราคาขายผลิตภัณฑ์สมุนไพรนี้ มีสมาชิกวิสาหกิจชุมชนปลูกและแปรรูปสมุนไพรทับยายเชียงเข้าร่วมจำนวน 50 คน

ภาพกิจกรรม

ผลการดำเนินงาน

1. อุทยานวิทยาศาสตร์มหาวิทยาลัยนเรศวร ดำเนินโครงการแล้วดังนี้

- นำส่งเงินเข้ามหาวิทยาลัยนเรศวร จำนวนเงิน 190,000 บาท (หนึ่งแสนเก้าหมื่นบาทถ้วน)
- นำส่งเงินอุดหนุน ร้อยละ 10 จำนวนเงิน 19,000 บาท (หนึ่งหมื่นเก้าพันบาทถ้วน) 
- งบดำเนินโครงการคงเหลือ 171,000 บาท (หนึ่งแสนเจ็ดหมื่นหนึ่งพันบาทถ้วน)

2. หัวหน้าโครงการและทีมงาน ได้ดำเนินการประชุมวางแผนดำเนินการลงพื้นที่ถ่ายทอดองค์ความรู้ให้กลุ่มชุมชน

3. อยู่ระหว่างดำเนินการขออนุมัติดำเนินโครงการ และขออนุมัติจัดกิจกรรมต่อไป