กิจกรรมการฝึกอบรมศูนย์เรียนรู้ต้นแบบในการท่องเที่ยวชุมชน  Eco print Ecotourism  และเชื่อมโยงสู่มาตรฐานโฮมสเตย์ ในวันที่ 3-5 พฤษภาคม 2568  ณ  บ้านนาสวนสามขา มีรายละเอียด ดังนี้  

วันที่ 3 พค. 68 การออกแบบการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการใน Workshop สำหรับกลุ่มเป้าหมายที่แตกต่างกัน   การแบ่งงาน  วิทยากร  การบริหารจัดการกลุ่ม  มีการชี้แจงรายละเอียดบัญชีรายรับ รายจ่าย และหารือการเปิดบัญชีกลุ่มที่มีรายชื่อผู้เปิดร่วม 3 คน เพื่อให้การบริหารจัดการกลุ่มเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของการจัดตั้งกลุ่ม นอกจากนี้เงินหมุนเวียนในกลุ่มจะนำไปซื้อผ้าและอุปกรณ์ต่าง ๆ เพิ่มเติม รวมถึงการจัดฝึกอบรมงานฝีมือให้กับสมาชิกกลุ่ม เพื่อจะสามารถสร้างรายได้นอกเหนือจากการทำผ้า ecoprint  โดยจะเน้นงานทำมือเป็นหลัก

วันที่ 4 พค. 68  บ้านนาสวนสามขาโฮมสเตย์  ได้ผ่านการรับรองมาตรฐานโฮมสเตย์แล้ว นายณัฐสิทธิ์ วุฒิ ประธานกลุ่ม ได้ให้ความรู้เกี่ยวกับการดำเนินการจัดทำโฮมสเตย์ของกลุ่มสมาชิก เพื่อจะได้ขยายโฮมสเตย์เพื่อรับรองนักท่องเที่ยวในอนาคต   “โฮมสเตยไทย”  คือ  การทองเที่ยวรปแบบหนึ่ง  ที่นักท่องเที่ยวจะต้องพักร่วมกับเจ้าของบ้าน  ชายคาเดียวกน  โดยมีห้องพักหรือพื้นที่ใช้สอยภายในบานเหลือ  สามารถนำมาดัดแปลงให้นักท่องเที่ยว พักได้ชั่วคราว  ซึ่งมีจานวนไม่เกิน  4  หอง  มีผู้พักรวมกันไม่เกิน  20  คน  โดยมีค่าตอบแทน  และจัดบริการ สิ่งอำนวยความสะดวกตามสมควร  อันมีลกษณะเป็นการประกอบกจการเพื่อหารายได้เสริม  ซึ่งเป็นไป ตามบทนิยามคำว่า  “โรงแรม”  แห่งพระราชบัญญัติโรงแรม  พ.ศ.  2547  และได้ขึ้นทะเบียนกับ กรมการท่องเที่ยว  ตามหลักเกณฑ์ที่กรมการท่องเที่ยว  กำหนด    ซึ่งเบื้องต้นทางกลุ่มได้ถามความสมัครใจของสมาชิกที่จะเข้าร่วมเป็นเครือข่ายโฮมสเตย์  ได้แก่ บ้านนายณัชพล  พรมคำ และบ้านนางค้าย ทะมา  เนื่องจากสภาพบ้านสามารถปรับปรุงและทำเป็นโฮมสเตย์ได้  อย่างไรก็ตามอาจจะต้องทดลองรองรับนักท่องเที่ยวก่อนที่จะยื่นขอมาตรฐานต่อไปว่าสามารถให้บริการได้หรือไม่  มีความยุ่งยากต่อเจ้าของบ้านหรือไม่ในการให้บริการ

วันที่ 5 พค.68  การออกแบบป้ายศูนย์เรียนรู้ต้นแบบในการท่องเที่ยวชุมชน  การออกแบบกิจกรรมเพิ่มเติมได้แก่  การตัดเย็บเสื้อกะเหรี่ยงจากงานผ้า Ecoprint ด้วยมือ ซึ่งทางสมาชิกกลุ่มสามารถเย็บได้  และเป็นการออกแบบกลุ่มเป้าหมายที่มีเวลาและต้องการใช้ชีวิตแบบสโลว์ไลฟ์  เมื่อมาท่องเที่ยวและสามารถพักอยู่กับโฮมสเตย์ได้ 2 วัน และมีการหารือการแบ่งงานกันเพื่อจัดอบรมแก่ กศน.สันติสุข ที่จะขอเข้ารับการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการในวันที่ 6 พค.68 ตลอดจนการปรับปรุงพื้นที่บ้านนาสวนสามขา เพื่อใช้รองรับกิจกรรมต่าง ๆ ในอนาคต  โดยทางบ้านนาสวนสามขา  ได้ดำเนินการโดยใช้ทุนส่วนตัวในการปรับเปลี่ยนสถานที่  

การสร้างสื่อเพื่อสร้างการรับรู้การท่องเที่ยวในชุมชนและการตลาดออนไลน์

วันที่ 28-30 มีนาคม 2568  ได้จัดการอบรมเชิงปฏิบัติการเกี่ยวกับการสร้างสื่อในชุมชน  เช่น การนำผลิตภัณฑ์มานำเสนอและสร้างเนื้อหาด้วยภาพนิ่ง  การถ่ายภาพเพื่อนำมาโพสต์บนสื่อโซเซียลมีเดีย  รวมถึงการจ้างเหมาบริษัทเอกชนจัดทำสื่อเพื่อสร้างการรับรู้การท่องเที่ยวในชุมชน

โดยการลงพื้นที่ถ่ายทำตามเส้นทางท่องเที่ยวชุมชนตามเส้นทางที่กำหนดในแผนที่่ท่องเที่ยวชุมชน ตลอดจนรายละเอียดที่พัก อาหาร และกิจกรรม Workshop

ได้แก่ เส้นทางที่ 1 การทำกิจกรรม Workshop ณ วิสาหกิจชุมชนป่าแลวคราฟท์ ใน 1 วัน ซึ่งทำผ้าคลุมไหล่และเสื้อยืด ใช้เวลาตั้งแต่ 09.00-14.00 น. ระหว่างรอผ้านึ่ง 2 ชม. จะสามารถไปไหว้พระที่วัดป่าแลวหลวง วัดอภัยคีรี และชมการทำไหข้าวแบบโบราณ แวะซื้อของกินท้องถิ่น ณ กาดหนานเคม ก่อนกลับมาเปิดผ้าในเวลา 16.30 น.  

เส้นทางที่ 2 การทำกิจกรรม Workshop 1 วัน ณ วิสาหกิจชุมชนป่าแลวคราฟท์ ใน 1 วัน ซึ่งทำผ้าคลุมไหล่และเสื้อยืด ใช้เวลาตั้งแต่ 09.00-14.00 น. ระหว่างรอผ้านึ่ง 2 ชม. จะสามารถไปไหว้พระที่วัดอภัยคีรี และชมการทำไหข้าวแบบโบราณ ก่อนกลับมาเปิดผ้าในเวลา 16.00 น. ขึ้นชมวิวที่ไก่ป่าเคมป์ เวลา 17.00 น. ดูพระอาทิตย์ตกดิน

เส้นทางที่ 3 Workshop 2 day   วันที่ 1 เรียนรู้การทำผ้าแบบเบสิค แบบห่มสี เสื้อยืด + เดินกาดหนานเคม+ ชมวิวที่ไก่ป่าแคมป์ (หากต้องการพักที่ไก่ป่าแคมป์ สามารถแจ้งได้) วันที่ 2 เปิดผ้าและเรียนรู้สูตรการทำสีธรรมชาติ น้ำแช่ผ้า และการซักฟิกสี + ช่วงบ่ายไหว้พระวัดอภัยคีรี  ชมการทำไหข้าวแบบโบราณ 

เส้นทางที่ 4 สำหรับผู้มีเวลาในการทำ Workshop เพียง 1 ชม. ราคา  299 บาท เป็นการทุบใบไม้และดอกไม้บนเสื้อยืด   ทานอาหารที่แบมบูซี๊ด  ไหว้พระวัดอภัยคีรี ชมการทำไหข้าวแบบโบราณ เดินทางต่อไปที่เส้นทางหมายเลข 3  (หากไม่ต้องการพักที่ป่าแลวหลวงสามารถเดินทางไปต่อที่ถนนหมายเลข 3 ได้)

วันที่่ 15 กุมภาพันธ์ 2568  

1. ประชุมกลุ่มเพื่อชี้แจงการดำเนินงานในปีที่ 3  และการกรอกเอกสารเพื่อยื่นขอ มผช. ผ้าพิมพ์ลายจากพืช ณ วิสาหกิจชุมชนป่าแลวคราฟท์  มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้แก่ สมาชิกในกลุ่มจำนวน 12 คน และผู้นำชุมชน 2 คน ทีมงานดำเนินงานจำนวน  4 คน

2. สรุปปัญหาการดำเนินงานในปีที่ผ่านมา  และทางกลุ่มดำเนินการหาช่างตัดเย็บที่มีฝีมือในท้องถิ่นเพื่อออกแบบตัดเย็บเสื้อผ้า งานแปรรูปต่าง ๆ ไว้ขายในกิจกรรมออกบูธร่วมกับจังหวัดและไว้แสดงผลงานให้นักท่องเที่ยว

3. ผลการประชุมกลุ่ม พบว่า เห็นควรให้มีการปรับกิจกรรม workshop ให้เข้ากับความต้องการของนักท่องเที่ยวที่มีเวลาน้อย เช่น ให้ทำกิจกรรมทำผ้าคาดผม หรือเสื้อยืด แล้วจัดส่งให้ในภายหลัง 

4. ประชุมพิจารณาปรับเส้นทางท่องเที่ยวชุมชน ให้เฉพาะจุดที่ใกล้กับวิสาหกิจชุมชนป่าแลวคราฟท์ โดยเพิ่มจุดเรียนรู้ในชุมชน ได้แก่ จุดทอย่าม  จุดทำที่นึ่งข้าวเหนียวจากไม้ หรือกั๊วะข้าว 

วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2568  

 1. สำรวจจุดท่องเที่ยวในชุมชนเพื่อจัดทำป้ายแสดงแหล่งท่องเที่ยวในชุมชน และจุดสำหรับติดตั้งป้าย