Knowledge Sharing ชุมชนแห่งการเรียนรู้...
การประชุมหารือแนวทาง การยกระดับข้าวหอมมะลิจังหวัดร้อยเอ็ด ในเขตทุ่งกุลาร้องไห้ สู่เกษตรมูลค่าสูงด้วย อววน. 7
การประชุมหารือแนวทาง การยกระดับข้าวหอมมะลิจังหวัดร้อยเอ็ด ในเขตทุ่งกุลาร้องไห้ สู่เกษตรมูลค่าสูงด้วย อววน. 7
คำสำคัญ : กปว. ข้าวหอมมะลิ ทุ่งกุลา








เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 11 ธันวาคม 2568 เวลา 14.00 น. คณะผู้แทน อว. ได้เข้าพบ นายชัชวาลย์ เบญจสิริวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด เพื่อหารือหารือแนวทาง “การยกระดับข้าวหอมมะลิจังหวัดร้อยเอ็ด ในเขตทุ่งกุลาร้องไห้ สู่เกษตรมูลค่าสูงด้วย อววน.” ณ ห้องประชุม smart room ชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดร้อยเอ็ด โดยคณะผู้แทน อว. ประกอบด้วย
1. นายเอกพงศ์ มุสิกะเจริญ ผู้อำนวยการกองส่งเสริมและประสานเพื่อประโยชน์ทางวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (กปว.)/สป.อว.
2.ผศ.ดร.วิชิต กำมันตะคุณ รักษาราชการแทนอธิการบดี มรภ.ร้อยเอ็ด/หัวหน้า อว.ส่วนหน้าจังหวัดร้อยเอ็ด
3.ผศ.ดร.ศรีสุนันท์ ประเสริฐสังข์ รองอธิการบดีฝ่ายวางแผนและยุทธศาสตร์การพัฒนาท้องถิ่น/มรภ.ร้อยเอ็ด
4.นายธนากร สงวนตระกูล นักภูมิสารสนเทศชำนาญการพิเศษ/GISTDA
5.ดร.พุทธิพงษ์ หงษ์ทอง อาจารย์/นักวิจัย มทร.อีสาน
6.นายชุมพล เยาวภา นักวิเคราะห์นโยบายและแผนชำนาญการ อว.ภูมิภาค ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กปว.สป.อว.
7.นางสาวเจนจิรา ภาประเวช พนักงานร่าชการ อว.ภูมิภาค ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ/กปว.สป.อว.
8.นายธวัชชัย บุญอนันต์ อว.ภูมิภาค นักจัดการงานทั่วไป ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ/กปว.สป.อว.
9.นายสถาพร กิณริน ผู้ประสานงานคลินิกเทคโนโลยี มมส.
ในการประชุมหารือดังกล่าว นายเอกพงศ์ฯ ได้นำเสนอผลการดำเนินงานของ อว. ในพื้นที่ทุ่งกุลา จังหวัดร้อยเอ็ด ภายใต้ MOU การพัฒนาข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาด้วย วทน. (พ.ศ. 2560 – 2564) ระหว่าง อว. และ 5 จังหวัดในพื้นที่ทุ่งกุลา โดยมี 4 หน่วยงานในสังกัด อว. ที่เข้ามาดำเนินงานในพื้นที่ ได้แก่
1.สวทช. ที่เข้ามาพัฒนาเรื่องการยกระดับประสิทธิภาพการผลิตข้าว ทั้งพันธุ์ข้าว ปัจจัยการผลิต และอาชีพเสริม เช่นการเลี้ยงปูนา พืชหลังนา (ถั่วเขียวสายพันธุ์ KUML) การผลิตถ่าน Biochar จากวัสดุเหลือทิ้งทางการเกษตร ซึ่งวัสดุเหลือทิ้งทางการเกษตรที่มีน้ำหนักเบา เช่น ฟางข้าว มักจะทำให้ได้ถ่าน Biochar ที่มีคุณสมบัติเด่นในเรื่องของปริมาณรูพรุนที่สูงและความสามารถในการกักเก็บน้ำและธาตุอาหารได้ดีกว่าวัสดุที่มีเนื้อไม้หรือน้ำหนักมากกว่า ซึ่งมีประโยชน์อย่างยิ่งในการปรับปรุงคุณภาพทางกายภาพและชีวภาพของดิน
2.GISTDA ที่พัฒนาระบบเพื่อการจัดการข้าวเชิงพื้นที่ หรือ G-Rice โดย G-Rice ถูกนำมาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการ การเพาะปลูกข้าว โดยเกษตรกร/วิสาหกิจชุมชน ใช้ในการติดตามและรายงานผล การเพาะปลูก กิจกรรมระหว่างปลูก และผลผลิตข้าวหอมมะลิและสินค้าเกษตรอินทรีย์ รวมถึงตรวจสอบย้อนกลับ กระบวนการผลิตและมาตรฐานการเพาะปลูก
3.วว. ที่เข้ามาดำเนินโครงการแปรรูปข้าวหอมมะลิเป็นผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและความงาม ร่วมกับ พช.ร้อยเอ็ด โดยพัฒนาผลิตภัณฑ์เชิงนวัตกรรม ใช้สารออกฤทธิ์หลักจากข้าวหอมมะลิ พร้อมยกระดับคุณภาพผลิตภัณฑ์ให้เป็นที่ยอมรับและความต้องการของตลาด ในกลุ่มเครื่องสำอาง
4.วศ. ที่เข้ามาดำเนินการพัฒนาผลิตภัณฑ์ข้าวแปรรูปเพื่อยกระดับคุณภาพผลิตภัณฑ์อาหารและสมุนไพร เพื่อยกระดับผลิตภัณฑ์ให้มีคุณภาพตรงตามมาตรฐานกำหนดและเป็นผลิตภัณฑ์ ที่ได้รับการยอมรับจากผู้บริโภค สร้างมูลค่าเพิ่มให้วัตถุดิบทางการเกษตร
และ นายเอกพงศ์ฯ ยังได้นำเสนอแผนงาน/โครงการ ภายใต้ MOU การยกระดับข้าวหอมมะลิจังหวัดร้อยเอ็ด ในเขตทุ่งกุลาร้องไห้ สู่เกษตรมูลค่าสูงด้วย อววน. (พ.ศ. 2568 – 2572) ซึ่งประกอบด้วย 2 ส่วน ได้แก่
1.การจัดทำชุดแผนงาน/โครงการเพื่อของบจังหวัดร้อยเอ็ดปี 2570 ภายใต้โครงการพัฒนาเกษตรมูลค่าสูงจังหวัดร้อยเอ็ด โดยมีหน่วยงานรับผิดชอบหลักคือ สำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดร้อยเอ็ด (กษ.รอ.) โดยมี 12 โครงการ งบประมาณรวม 24.6 ล้านบาท
2.การจัดทำชุดแผนงาน/โครงการเพื่อของบประมาณจากแหล่งทุนอื่น เช่น กองทุน ววน. และกองทุนพิเศษแม่โขงล้านช้าง ฯลฯ โดยมี กปว./สป.อว. เป็นหน่วยงานรับผิดชอบหลัก ประกอบด้วย
- โครงการพัฒนาและยกระดับมาตรฐานความหอม ข้าวหอมมะลิจังหวัดร้อยเอ็ด ในเขตทุ่งกุลา เพื่อเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันในตลาดโลก โดยโครงการนี้ได้มีการหารือกันมาเกือบ 10 ปีแล้วที่จะนำ e-nose หรือจมูกอิเล็กทรอนิกส์มาใช้เพื่อวัดระดับความหอมของข้าวหอมมะลิ เพื่อยกระดับมาตรฐานข้าวหอมมะลิจังหวัดร้อยเอ็ด ในเขตทุ่งกุลา ให้สามารถแข่งขันในตลาดโลก
- โครงการยกระดับและเพิ่มมูลค่าข้าวหอมมะลิจังหวัดร้อยเอ็ด ในเขตทุ่งกุลาด้วยนวัตกรรมกระบวนการผลิตข้างฮางตลอดห่วงโซ่คุณค่า
- โครงการพัฒนาและยกระดับมาตรฐานการผลิตเพื่อเพิ่มความหอม เนื้อสัมผัสนุ่ม และรสชาติอร่อย ให้กับข้าวในประเทศกลุ่มสมาชิกอนุภาคลุ่มน้ำโขง (ไทย จีน เวียดนาม และกัมพูชา) เพื่อเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันในตลาดโลก
โดย นายชัชวาลย์ฯ ได้เน้นย้ำว่าข้าวหอมมะลินั้นแบ่งเป็น 2 เกรดคือ เกรดทั่วไป และเกรด GI หรือเกรดพรีเมี่ยม ที่ปลูกในพื้นที่ทุ่งกุลา ซึ่งจะมีราคาสูงกว่าเกรดทั่วไปประมาณ 20-30% และได้เห็นชอบแผนงาน/โครงการที่ นายเอกพงศ์ฯ นำเสนอ โดยเฉพาะโครงการการยกระดับการผลิตสินค้าเกษตรที่ใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่/อัจฉริยะ ของจังหวัดร้อยเอ็ด ให้มีมูลค่าสูง ด้วยแพลตฟอร์มนวัตกรรมภูมิสารสนเทศเกษตรมูลค่าสูงและระบบตรวจสอบย้อนกลับจังหวัดร้อยเอ็ด แบบมีส่วนร่วมกับกลุ่มเกษตรกร ที่นายธนากรฯ นำเสนอข้อมูลเพิ่มเติม โดยของบจังหวัดร้อยเอ็ดปี 2570 ซึ่ง กษ.รอ. ได้แจ้งว่าโครงการนี้ผ่านการพิจารณาและได้รับอนุมัติงบประมาณแล้ว ส่วนแผนงาน/โครงการที่จะของบจากแหล่งทุนอื่นๆ ให้หน่วยงานที่รับผิดชอบทั้ง อว. และจังหวัดร้อยเอ็ดประชุมหารือร่วมกัน เมื่อได้ข้อสรุปแล้ว จังหวัดร้อยเอ็ดจะทำหนังสือแจ้งความประสงค์หรือความต้องการไปยัง อว. เพื่อให้ อว. ใช้ประกอบการจัดทำแผนงาน/โครงการโดยเป็นความต้องการของพื้นที่ เพื่อของบจากแหล่งทุนอื่นๆ เช่น กองทุน ววน.
นอกจากนี้ นายชัชวาลย์ฯ ได้ขอชุดข้อมูลสถิติจุดความร้อนสะสม (hotspot) ระหว่างวันที่ 1 มกราคม - 30 เมษายน ย้อนหลัง 3 ปี (พ.ศ. 2566 - 2568) จาก GISTDA เพื่อนำมาใช้เป็นฐานข้อมูลในการวางแผนป้องกัน แก้ไข และเฝ้าระวังภัยพิบัติในพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ด โดยเฉพาะพื้นที่ อ.โพนทราย และ อ.เสลภูมิ เนื่องจากการที่ ผวจ. จะสั่งการหรือมีมาตรการใดๆ ต้องอยู่บนพื้นฐานของข้อมูล (Based on Data) โดย นายเอกพงศ์ฯ ได้ขอให้จังหวัดร้อยเอ็ดประสานผ่านไปยัง อว.ส่วนหน้าจังหวัดร้อยเอ็ด เนื่องจาก อว. อยากให้เกิดโมเดลที่มหาวิทยาลัย อว.ส่วนหน้า ในพื้นที่เป็น nerve center ให้กับ ผวจ. โดยมีหน่วยงานในสังกัด อว. เข้ามาเสริมทัพ
อีกทั้ง นายชัชวาลย์ฯ ได้ขอให้ อว. เข้ามาพัฒนาโคเนื้อ สาเกตบีฟ จากผลิตภัณฑ์แบรนด์ local สู่ global โดยจังหวัดร้อยเอ็ดได้รับการพิจารณาและอนัมัติงบงบสำหรับดำเนินโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตโคเนื้อ สาเกตบีพ ในปี 2570 เพื่อสร้างโรงงานในการแปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่าโคเนื้อ สาเกตบีพ ซึ่งมีหน่วยงานรับผิดชอบคือ ปศุสัตว์จังหวัด มมส. และ มก. โดย นายเอกพงศ์ฯ ได้ให้ข้อเสนอแนะว่า อว. อาจเข้ามาช่วยในเรื่องการพัฒนาโรงเชือดให้ได้มาตรฐาน เพื่อลดต้นทุนค่าใช้จ่าย เนื่องจากตอนนี้กลุ่มโคเนื้อ สาเกตบีพ ส่งโคไปเชือดที่นครพนม








เขียนโดย : นายชุมพล เยาวภา
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม : chumpon@mhesi.go.th