ปี 2567 ทางกลุ่มมวิสาหกิจร่วมกับที่ปรึกษาจากมหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์ ได้ทำการพัฒนากระบวนการผลิต จากเดิมใช้แรงงานคนในทุกขั้นตอน และไม่มีการวิเคราะห์ความเสี่ยงในประเด็นการปนเปื้อนของจุลินทรีย์ โดยได้ออกแบบกระบวนการให้มีการวิเคราะห์จุด CP และ CCP ตามหลัก HACCP เพื่อให้เห็นจุดจัดการ และเพิ่มกระบวนการวิเคราะห์ระหว่างการผลิต ได้แก่ การวิเคราะห์ค่าความหวานของมะขามป้อมก่อนและหลังการอบแห้ง และการวิเคราะห์จุลินทรีย์ก่อนและหลังกระบวนการอบแห้ง โดยใช้เครื่องมืออย่างง่าย และชุดทดสอบที่สามารถทำได้โดยคนงาน ทำให้ลดการปนเปื้อนของจุลินทรีย์ และลดการเกิดแก็สในระหว่างการรอจำหน่ายได้ร้อยละ 100 และการพัฒนาต้นแบบเครื่องจักรกล โดยการออกแบบเครื่องการออกแบบเครื่องกวนผสม ที่มีคุณลักษณะของเครื่อง คือ เครื่องผสมแบบกระบอก Drum Mixer Machine วัสดุ Stainless Steel 201/304 มีล้อเลื่อน รุ่นวาล์วปีกผีเสื้อ ขนาด 35 กิโลกรัม วัสดุถังสแตนเลส 201 ไฟ 220V (ภาพที่ 1 เครื่องกวนผสม)  เมื่อติดตั้งแล้ว ทำให้ใช้ระยะเวลาในการกวนผสมมะขามป้อม 30 กิโลกรัม ในเวลา 3 นาที (ภาพที่ 2 การใช้งานเครื่องผสม)ซึ่งสามารถลดแรงงานคนได้ 2 คน และลดระยะเวลาได้ 3 ชั่วโมง

จากกระบวนการผลิต และเครื่องผสมที่พัฒนาขึ้น ทำให้ในกระบวนการผลิตมีการใช้น้ำตาลในสูตรเดิมเพื่อการแช่อิ่มก่อนการอบแห้งมีปริมาณน้ำตาลที่ใช้มากเกินความจำเป็น เนื่องจากในการผสมลดระยะเวลาเหลือ 3 นาที ดังนั้นจึงจำเป็นต้องมีการปรับสูตรเพื่อการระบุบนฉลาก และขอเลขสารบบ อย. ในสูตรที่ปรับขึ้น รวมถึงการปรับแต่งเครื่องกวนผสมให้ใช้พลังงานไฟฟ้าลดลงเพื่อการลดต้นทุนค่าไฟฟ้า จากการใช้ มอเตอร์ 3 แรง เหลือ 1 แรง และศึกษาการทำงานของเครื่องให้มีประสิทธิภาพตามเดิม พร้อมติดตั้งระบบตัดไฟอัตโนมัติ และในส่วนของบรรจุภัณฑ์จะมีการออกแบบเพิ่มเติมเพื่อให้สะดวกในการบริโภคต่อครั้ง โดยใช้บรรจุภัณฑ์ภายในที่ย่อยสลายได้ มาบรรจุรายเมล็ดเพื่อลดการปนเปื้อนของเชื้อจุลินทรีย์ของผู้บริโภค ช่วยยืดอายุการเก็บหลังการเปิดซองรับประทานแล้ว แต่บรรจุภัณฑ์ภายนอกยังคงเดิม เนื่องจากเป็นที่จดจำของผู้บริโภคแล้ว